"ชัชชาติ" สั่งปรับผู้รับเหมาสร้างอุโมงค์ยักษ์ "บึงหนองบอน" ล่าช้า 2 ปี

สังคม
17 ก.ค. 65
11:45
2,441
Logo Thai PBS
"ชัชชาติ" สั่งปรับผู้รับเหมาสร้างอุโมงค์ยักษ์ "บึงหนองบอน" ล่าช้า 2 ปี
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
งานก่อสร้างอุโมงค์ยักษ์ "บึงหนองบอน" ระบายน้ำ 6 ปี มูลค่า 4,900 ล้านบาท ยังไม่เสร็จ หนำซ้ำพังถล่มระหว่างก่อสร้างเมื่อ ก.พ.65 ยิ่งลากงานช้าต่อไปอีกอย่างน้อย 2 ปี เพื่อก่อสร้างอุโมงค์ใหม่ เข้มสั่งปรับตามจริงหลังเกินสัญญาแล้ว ชาวบ้านโวย กระทบจราจร

วันนี้ (17 ก.ค.2565) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.พร้อมด้วยนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่บริเวณ ถ.อุดมสุข ช่วง ซอยสุขุมวิท 103 ติดตามการแก้ไขปัญหางานก่อสร้างอุโมงค์ยักษ์หนองบอน งบประมาณ 4,925 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ยังก่อสร้างไม่เสร็จและพ้นกำหนดสัญญาไปแล้ว รวมถึงในช่วงเดือน ก.พ.2565 ได้เกิดเหตุ

 

ขณะนี้ ผู้รับเหมายังไม่สามารถสรุปได้ว่า จะดำเนินการก่อสร้างต่อโดยวิธีใด ทำให้วันนี้ทั้ง ผู้ว่าฯ และ รองผู้ว่าฯ กทม.ต้องลงพื้นที่เร่งรัดโครงการ

นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. ระบุว่า โครงการดังกล่าวเป็นงานก่อสร้างอุโมงค์ยักษ์ระบายน้ำจากบึงหนองบอน ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาที่เกิดเหตุทรุดตัวไปในช่วงก่อนหน้านี้ เพื่อให้หาวิธีแก้ปัญหาโดยเร็ว โดยมอบหมายให้นายสมศักดิ์ มีอุดมศักดิ์ ผอ.สำนักระบายน้ำ กทม.หารือ กับผู้รับเหมา

 

สำหรับโครงการอุโมงค์ยักษ์ "บึงหนองบอน" มีสำนักการระบายน้ำ กทม.เป็นเจ้าของโครงการ มี บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น เป็นผู้รับเหมา มูลค่าโครงการ 4,900 ล้านบาท รองรับน้ำฝั่งตะวันออกในเขตประเวศ, สวนหลวง, บางนา และพระโขนง

เริ่มสัญญาเมื่อวันที่ 13 ม.ค.2559 สิ้นสุดสัญญา วันที่ 15 ก.พ.2565 แต่ได้เกิดเหตุอุโมงค์ใต้ดินที่อยู่ระหว่างก่อสร้างพังถล่ม ตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ.2565

 

ระหว่างลงพื้นที่วันนี้ มีชาวบ้านจำนวนมากมาร้องเรียนนายชัชชาติ เพื่อขอให้เร่งแก้ปัญหาเพราะหากยิ่งนาน ยิ่งส่งผลกระทบด้านการจราจร และชุมชนที่มีการปิดกั้นพื้นที่ระหว่างการก่อสร้างที่ยังแล้วเสร็จ

 

ด้านผู้รับเหมา สันนิษฐานว่า สาเหตุที่อุโมงค์ยักษ์พังถล่ม อาจมาจากดินอ่อนตัว ทำให้นายชัชชาติ สะท้อนว่า คงไม่ใช่ดินอ่อนตัวอย่างเดียว แต่เกี่ยวกับช่วงงานที่ต้องก่อสร้างด้วย

 

ต้องถามกลับด้วยว่า ทำไมถึงพังถล่มเสียหายหนักขนาดนี้ โชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิต และต้องกำชับผู้รับเหมาให้ระวังเรื่องแบบนี้ด้วย ซึ่งไม่น่าเกิดขึ้นได้ แต่เมื่อเกิดแล้วก็ต้องหาทางแก้ไข

 

จากการสอบถามทำให้ทราบว่า ยังต้องใช้เวลาก่อสร้างอุโมงค์ใหม่ทั้งหมด จากเดิมจุดแรกที่พังอยู่ใต้พื้นถนนลึกลงไปประมาณ 30 เมตร แต่ครั้งนี้จะให้ลึกอยู่ 16 เมตร แต่ผู้รับเหมาก็ยังไม่ระบุชัดเจนว่า จะใช้วิธีใด แต่ต้องใช้เวลาก่อสร้างใหม่ทำให้ล่าช้าออกไปอีก 2 ปี นับจากนี้ ซึ่งผู้ว่าฯได้กำชับว่าต้องเร่ง เพราะยิ่งช้ายิ่งกระทบประชาชน

เรื่องนี้เป็นงานยาก แต่ผู้รับเหมาต้องพูดความจริง สื่อสารกับประชาชนให้มากกว่านี้ จะช้าเพราะอะไร จะใช้เวลาอีกนานเท่าไร ต้องขึ้นป้ายบอกให้ประชาชนรับทราบให้ชัดเจน ไม่ใช่มาเงียบ ๆ เกิดปัญหาต้องชี้แจง รวมถึงการเยียวยาชดใช้ผู้ได้รับผลกระทบต้องทำให้ชัดเจนและรวดเร็ว

เมื่อถามถึงเรื่องค่าปรับงานก่อสร้างที่ล่าช้านั้น นายชัชชาติ ระบุว่า ต้องพูดอยู่แล้ว แน่นอนค่าเสียหายต้องว่าไปตามสัญญาไม่ใช่ความผิดของ กทม.ไม่ใช่ความผิดเราแน่นอน เรื่องนี้ว่ากันตามสัญญาเลย เอาประโยชน์ ประชาชนเป็นที่ตั้ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง