วันนี้ (25 เม.ย.2565) ผู้ลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล ในบริษัท ซิปเม็กซ์ นัดรวมกัน เข้าพบตำรวจ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) และผู้ลงทุนบางส่วนเดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อแสดงหลักฐานเบื้องต้น และร้องทุกข์กล่าวโทษ ผู้บริหาร และบริษัท ซิปเม็กซ์
หลังบริษัท ประกาศระงับการทำธุรกรรม โดยอ้างประสบปัญหาขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง จากการนำสินทรัพย์ดิจิทัล ไปลงทุนต่อใน บริษัท ซิปเม็กซ์ โกลเบิล ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีนโยบายลงทุนกับผู้ให้บริการทางการเงินสินทรัพย์ดิจิทัล "บาเบล" และ "เซลเซียส" ที่ประกาศล้มละลาย
แต่บริษัทยังคงเชิญชวนผู้ลงทุน ใน "ซิปอัพ" ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์คล้ายเงินฝาก ในรูปการฝากด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อรับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยที่สูงกว่าการฝากเงินทั่วไป ซึ่งเป็นคนละส่วนกับการลงทุนซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วไป
อีกทั้งการระงับการทำธุรกรรม ทั้งฝั่งการถอนเงินจากผลิตภัณฑ์การเงินและฝั่งการลงทุน สร้างความเสียหายต่อผู้ลงทุนอย่างรุนแรง ซึ่งมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท
ขณะที่นายภัทรเศษฐ์ พรหมสวัสดิ์ ตัวแทนผู้เสียหาย ระบุว่า ผู้ลงทุนเข้าใจความเสี่ยงจากการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลและลดความเสี่ยงด้วยการลงทุนกับบริษัทแพลตฟอร์มซื้อขายของไทยซึ่งได้รับการรับรองจาก กลต.
ผู้ลงทุนไม่สามารถตรวจสอบว่า บริษัท นำสินทรัพย์ไปลงทุนหาผลตอบแทนต่อในต่างประเทศ เพราะขัดกับเงื่อนไขและขอบเขตความคุ้มครองตาม พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัลของไทย พร้อมเรียกร้องให้ คืนสินทรัพย์ และเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น
ขณะที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ จัดทำแบบฟอร์มรับแจ้งข้อมูลเพื่อรับเรื่องร้องเรียนจากผู้ได้รับผลกระทบ จากการระงับระบบทำธุรกรรม ของ บริษัท ซิปเม็กซ์ ที่ เว็บไซต์ สำนักงาน ก.ล.ต.
พร้อมสั่งให้ บริษัทซิปเม็กซ์ จัดให้มีระบบการให้บริการติดต่อลูกค้าและจัดการเรื่องร้องเรียนได้อย่างเพียงพอ และมีประสิทธิภาพ โดยต้องคำนึงถึงความคุ้มครองประโยชน์ของผู้ลงทุน
ล่าสุด ตัวแทนจากบริษัท ซิปเม็กซ์ เดินทางมายัง กองบังคับการตำรวจไซเบอร์แล้ว และอยู่ระหว่างชี้แจงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาสภาพคล่องของบริษัท