วัดสุทธิฯ ตั้งโต๊ะแถลงแจ้งจับ "อดีตไวยาวัจกร" 7 ข้อหาปมอ้างยักยอก 95 ล.

อาชญากรรม
4 ส.ค. 65
15:00
1,717
Logo Thai PBS
วัดสุทธิฯ ตั้งโต๊ะแถลงแจ้งจับ "อดีตไวยาวัจกร" 7 ข้อหาปมอ้างยักยอก 95 ล.
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เจ้าอาวาสวัดสุทธิวราราม -ทนายอนันตชัย ตั้งโต๊ะแถลงดำเนินคดีกับอดีตไวยาวัจกร 7 ข้อหา ใส่ร้ายให้วัดเสื่อมเสียชื่อเสียง อ้างเจ้าอาวาสยักยอกเงินวัด 95 ล้านบาทซื้อที่ดิน เผาศพไม่หมดนำไปทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา ยืนยันแค้นส่วนตัวปมถูกไล่ออกหาประโยชน์วัด

วันนี้ (4 ส.ค.2565) นายอนันตชัย ไชยเดช ทนายความ พร้อมด้วยพระสุธีรัตนบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดสุทธิวาราราม ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีถูกนายชาญณรงค์ เพียรดี อดีตไวยาวัจกรของวัดสุทธิวาราราม ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เจ้าคณะเขตสาทร เจ้าคณะแขวงสาทร และผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.)

โดยอ้างว่าการปฏิบัติหน้าที่ของพระสุธีรัตนบัณฑิต เจ้าอาวาสวัด เบิกจ่ายเงินไม่โปร่งใส รวมทั้งการเผาศพของวัด เมื่อเผาไม่หมดได้นำไปโยนทิ้งในแม่น้ำเจ้าพระยา และเรื่องที่เกี่ยวกับการก่อสร้างพระอุโบสถ และการเบิกเงินของวัดกว่า 95 ล้านบาท ไปซื้อที่ดินใน จ.เชียงรายรวม 6 เรื่องตั้งแต่ปี 2562

นายอนันตชัย กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นการใส่ร้ายให้วัด และเจ้าอาวาสได้รับความเสียหาย และเสื่อมเสียชื่อเสียง เนื่องจากมีการขัดผลประโยชน์ภายในวัด ก่อนหน้านี้ทางวัดได้แต่งตั้งให้นายชาญณรงค์ เป็นไวยาวัจกร มานานแล้วแต่ถูกถอดให้ออกจากตำแหน่ง

พบมีการทุจริตเรื่องการเก็บเงินค่าจอดรถในวัด และมีการขอเช่าที่เป็นร้านนวดแผนโบราณ ภายในวัด และให้ภรรยามาดูแล แต่ภายหลังเสียงดังจนเกิดความรำคาญ ทางวัดจึงขอให้ปิดร้านดังกล่าว ทำให้เกิดความไม่พอใจ

 

อ้างร้องเรียนปมแค้นส่วนตัวถูกปลดออกหาประโยชน์ 

นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการทำตัวเป็นอิทธิพล มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ดูหมิ่นสามเณร และพระสงฆ์ อีกทั้งพยายามร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ และสื่อมวลชน โดยใช้ข้อมูลอันเป็นเท็จให้ทางวัด และเจ้าอาวาสเสื่อมเสียชื่อเสียง

ด้านพระสุธีรัตนบัณฑิต เจ้าอาวาสวัด กล่าวว่า ก่อนหน้านี้นายชาญณรงค์ ทำอาชีพขับรถแท็กซี่ ก่อนที่จะขอเข้ามาขับรถให้ทางวัด จากนั้นนายชาญณรงค์ ก็ขอมาดูแลบัญชีกับทางวัด และเป็นไวยาวัจกร ก่อนจะค่อยๆ ก่อเหตุ  ทำให้ทางวัดต้องปลดออก แต่ถูกร้องเรียนหลายรอบ ที่ผ่านมาเข้าชี้แจงต่อคณะสงฆ์ตลอดมา เมื่อตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว ก็ไม่มีมูลความจริง และขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจากนายชาญณรงค์

พระสุธีรัตนบัณฑิต กล่าวอีกว่า เหตุการณ์นี้คิดว่าเป็นความแค้นส่วนตัว ของนายชาญณรงค์ ที่ไม่พอใจจากการถูกปลดออกจากตำแหน่ง และพยายามไปให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าว คาดว่าจะมีการทำเป็นขบวนการที่ทำให้ทางวัดเสื่อมเสีย ก่อนหน้านี้ก็ไม่คิดจะดำเนินคดีกับนายชาญณรงค์ แต่ภายหลังก็ยังพบว่ามีการพยายามใส่ร้ายจนทำให้เกิดความเสียหาย

ทนายความแจ้งความดำเนินคดีกับนายชาญณรงค์  ในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน แจ้งความอันเป็นเท็จ เพื่อกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญา หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และข้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องรวม 7 ข้อหา

 

ประเด็นร้องเรียนในรอบ 3 ปีมีอะไรบ้าง 

จากข้อมูลพบว่า นายชาญณรงค์ ได้ร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชนรวม 3 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2562 ทางวัดจึงได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วปรากฏว่า นายชาญณรงค์ ได้นำความเท็จไปร้องเรียน โดยทางวัดยืนยันว่า การเบิกจ่ายเงินของทางวัดเป็นไปตามระเบียบ โดยจะต้องมีผู้ลงนามรวม 3 คน ก่อนเบิกเงิน ส่วนการนำเงิน 95 ล้านบาทไปซื้อที่ดินในจังหวัดเชียงราย และสระบุรี เป็นที่ดิน สปก. ซึ่งตามระเบียบอนุญาตให้วัดหรือสำนักวงฆ์ มีที่ดินสปก.ได้ไม่เกิน 15 ไร่ ซึ่งทางวัดมีเพียง 7 ไร่ 63 ตารางวา ปัจจุบันได้ทำเป็นสถานปฏิบัติธรรม และได้จ่ายเงินตามระเบียบของวัดให้กับเจ้าของที่ดินอย่างถูกต้อง

 

ส่วนกรณีที่กล่าวอ้างว่าทางวัดเผาศพไม่หมด แล้วนำไปทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา  ทางวัดยืนยันว่าได้ดำเนินการตามระเบียบของ กทม.มีขั้นตอน ระเบียบชัดเจน เผาศพทุกศพเป็นขี้เถ้า ไม่มีการทิ้งชิ้นส่วนศพลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา และไม่เคยมีญาติของผู้เสียชีวิตรายใดมาร้องเรียนกับทางวัดว่านำศพไปทิ้ง

ทั้งนี้หลังจากที่นายชาญณรงค์ ไปร้องเรียนเมื่อปี 2562 ทางวัดได้ชี้แจงไปบางส่วนแล้ว จากนั้นนายชาญณรงค์ ได้ไปขอถอนและยุติการร้องเรียนกับเจ้าคณะไปแล้ว เนื่องจากอ้างว่าได้รับคำชี้แจงพร้อมตรวจสอบเอกสารแล้วพบว่าเป็นความเข้าใจผิด และได้กราบขอโทษกับเจ้าอาวาสแล้ว แต่กลับมาร้องเรียนต่อสื่อมวลชนอีกครั้ง เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง