“สมคิด” นั่ง ปธ.สอท. ชี้มีแต่อำนาจไม่มีปัญญา ก็พาบ้านเมืองไม่รอด

การเมือง
8 ก.ย. 65
12:05
460
Logo Thai PBS
“สมคิด” นั่ง ปธ.สอท. ชี้มีแต่อำนาจไม่มีปัญญา ก็พาบ้านเมืองไม่รอด
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เปิดตัว “สมคิด” นั่งประธานพรรค สอท. เปิดใจขออย่าคิดจะกลับมาเป็นนายกฯ ยันเป็นนายกฯ ได้ฟ้าต้องลิขิต บอกไม่ใช้ใจบันดาลแรง แต่มีแรงบันดาลใจ ทำเพื่อชาติไม่ใช่ประโยชน์ส่วนตัว

วันนี้ (8 ก.ย.2565) พรรคสร้างอนาคตไทย หรือ สอท. จัดกิจกรรม "#คิดสร้างอนาคตไทย" ประชุมสัมมนาผู้แสดงเจตจำนงลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในนามพรรคทั่วประเทศ

ไฮไลต์สำคัญคือการเปิดตัว นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพรรคสร้างอนาคตไทย ซึ่งนายสมคิดปรากฏตัวเปิดใจเป็นครั้งแรก เดี่ยวไมโครโฟน ยาว 1 ชั่วโมงเต็ม

นายสมคิดเดินทางมาพร้อมลูกชายคนเล็ก “น้องคลัง” หรือ นายณฉัตร จาตุศรีพิทักษ์ ที่นายสมคิดแนะนำว่า เป็นลูกที่สวรรค์ส่งมาให้ตอนดำรงตำแหน่ง รมว.คลัง ปัจจุบันอายุ 20 ปี ที่พามาด้วย เพื่อให้เป็นประจักษ์พยานว่า

การสร้างพรรคการเมืองที่ดี มีจริง และต้องการให้เรียนรู้ว่า การสร้างพรรคการเมือง ไม่ใช่ของง่าย ทำไมพ่อ ต้องมาช่วยน้อง ๆ เพราะเป็นภาระหน้าที่

ตำแหน่งนายกฯ ไม่มีความหมาย แต่ที่สำคัญคือ การเป็นผู้นำสร้างความเปลี่ยนแปลง พัฒนาบ้านเมือง จะได้เห็นความพยายามของพ่อซึ่งจะได้มาก ได้น้อย เป็นชะตาของบ้านเมือง

นายสมคิด ยังขอบคุณทุกคนที่กล้าเปิดตัวแสดงจุดยืนเป็นพรรคสายกลาง ต้องการสร้างอนาคต เพื่อชาติบ้านเมือง และมีความกล้าหาญ

การตั้งพรรคการเมืองในสถานการณ์การเมืองเละเทะ เงินตรามีบทบาทสูง การแข่งขันทางการเมือง เหมือนแข่งในสนามม้า มีม้าแข่งที่ต้องซื้อ มีคอก มีเจ้าของ ต้องหาเงินเลี้ยงม้า แต่โจ๋งครึ่มเกินไป เป็นตัวอย่างไม่ดี สำหรับการเมืองไทยทำให้คนรุ่นใหม่ไม่อยากเข้ามา

นายสมคิดกล่าวว่า จำนวนเสียงไม่ได้บอกอะไร แต่ศรัทธาของประชาชนคือหัวใจ อย่าคิดว่า เงินตราสามารถซื้อคอกม้าใหญ่ได้ จะมีพลังในการบริหารประเทศ

ถ้าคิดแต่จะสร้างโครงสร้างการเมือง ไม่มีโครงสร้างทางปัญญาไม่สนับสนุนคนที่มีความสามารถ ไม่มีโครงสร้างทางปัญญามีแต่โครงสร้างอำนาจ สุดท้ายจะไปไม่รอด เราจะพาชาติบ้านเมืองไม่รอดด้วย

สถานการณ์ขณะนี้หนักกว่าที่คิด และจำได้ว่า รัฐบาลหลังปี 2557 ก่อนที่จะส่ง 4 กุมารเข้าไป และคณะรัฐมนตรีเกินครึ่ง ตนได้สนับสนุนชื่อเข้าไปทำงาน จากที่ต่างประเทศไม่รับรัฐบาลทหาร ทำให้จีดีพีสูงขึ้น

จน 4 กุมาร ต้องมาเจอพิษแสวงหาอำนาจ ไม่ได้แสวงหาปัญญา มีการแบ่งกระทรวงแบบ Buffet cabinet (บุฟเฟ่ต์คาบิเนต) ซึ่งตนได้เตือนแล้วว่า ประเทศจะไปไม่รอด

เพื่อให้นิวเจน ได้สร้างการเมืองที่ดี อย่าคิดว่าการกลับมานั้น หวังแค่นายกฯ ให้คิดเสียใหม่ รู้จักคนชื่อสมคิดน้อยไป คนอย่างสมคิด ไม่ใช่มาเพราะแคนดิเดตนายก แต่ต้องการช่วยสร้างขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงให้ประเทศไทยจะมีทิศทางที่ถูกต้อง

นายสมคิด ระบุว่า ต้องโทษการเมือง ที่พาประเทศไปไม่ถึงฝัน เห็นแล้วน่าเสียดาย วันนี้เรามีนายกรัฐมนตรี แต่คนไหนตัวจริงยังไม่รู้เลย ที่น่ากังวลคือต้องมีนายกฯ ตัวจริง เพื่อให้พาสเวิร์ดโฟกัสไปที่ผู้นำ ที่ต้องทุบโต๊ะบริหารจัดการงบประมาณ ถ้าไม่ช่วยต้องยุบสภาไปเลย

นายสมคิดกล่าวต่อว่า ไม่ได้ต้องการตำแหน่งนายกฯ เพราะคนที่เข้าไปต้องแบกรับปัญหาของประเทศ แต่อยากให้พรรคเข้าไปกอบกู้และสร้างอนาคตของประเทศไทย และส่วนตัวพร้อมสนับสนุนพรรคในทุกบทบาทและทุกรูปแบบ แม้อายุจะมากแล้ว แต่ก็ยอมรับว่าการเมืองไม่ใช่เรื่องง่าย

คนอย่างผมไม่มีใจบันดาลแรง แต่มีแรงบันดาลใจ ที่จะช่วยเหลือประเทศไทยสร้างอนาคตให้ประเทศ ไม่ใช่เพื่อตัวเอง ซึ่งสิ่งนี้มาจากความจริงใจ ไม่ต้องการแข่งขันหรือตาล้อต่อเถียง

คิดต่างได้แต่ต้องเคารพกัน และจะสนับสนุนพรรคสร้างอนาคตไทยภายใต้เงื่อนไข 3 ข้อ คือให้ประชาชนมีส่วนร่วมกำหนดวาระหรือการตัดสินใจทั้งในและนอกสภา รวมถึงเข้าไปกอบกู้ประเทศทั้งระยะสั้นและยาว และสภาฯ ต้องรื้อกฎหมายเก่าๆ ถ้าคุณต้องการเปลี่ยนการเมือง ต้องเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่เปลี่ยนแต่กติกาการเลือกตั้ง แต่คือการเปลี่ยนแปลงให้เกิดการรีฟอร์มครั้งใหญ่

ช่วงหนึ่งนายสมคิดพูดถึงโครงการรับจำนำข้าว ที่ระบุว่าความผิดไม่ได้อยู่ที่การจำนำการจำนำแต่อยู่ที่การคอร์รัปชัน

วันนี้ผมไม่ได้เตรียมตัวมาพูด แต่พูดจากใจ อย่าพูดไปเรื่อยว่า สมคิดต้องเป็นนายกฯ เพราะการเป็นนายกฯ อยู่ที่ฟ้าลิขิต แต่ผมพร้อมจะเป็นผู้นำให้พวกคุณ

ก่อนที่คนในงานตะโกนเชียร์ ว่า “สมคิด สมคิด สมคิด” พร้อมดันให้เป็นแคนดิเดตนายกฯ

สำหรับบรรยากาศเป็นอย่างคึกคัก ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เข้าร่วมจำนวนมาก มีการจัดโพเดียมปราศัย ไว้กลางห้อง รายล้อมด้วยว่าที่ผู้สมัครจากทุกภาค พร้อมป้ายเชียร์ เช่น “มือเศรษฐกิจขั้นเทพ” “เลือกสมคิด ชีวิตมีอนาคต” “จอมยุทธ์กวง”

นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว นายปองพล อดิเรกสาร อดีตรองนายกรัฐมนตรี พร้อมลูกชาย นายปรพล อดิเรกสาร อดีต ส.ส.สระบุรี และนายนวกิจ พลวิเศษ ลูกชายนายภิรมย์ พลวิเศษ อดีต ส.ส.นครราชสีมา และอดีตแกนนำกลุ่มสามมิตรด้วย หลังได้ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อวันที่ 6 ก.ย.โดยทั้งหมดยื่นใบสมัครสมาชิกพรรคสร้างอนาคตไทย ในวันนี้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง