พิพากษา ประหารชีวิต “แม่ปุ๊ก” วางยาลูก 2 คนหวังเงินบริจาค

สังคม
15 ก.ย. 65
17:44
8,761
Logo Thai PBS
พิพากษา ประหารชีวิต “แม่ปุ๊ก” วางยาลูก 2 คนหวังเงินบริจาค
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ศาลพิพากษา ประหารชีวิต “แม่ปุ๊ก” คดีวางยาเด็กหญิงวัย 4 ขวบเสียชีวิตเพื่อหวังรับเงินบริจาค ส่วนลูกชายอายุ 2 ขวบก็ถูกวางยาด้วย ระบุความผิดหลายข้อหา หลายกระทงแม้สารภาพไม่ลดโทษประหารชีวิต

วันนี้ (15 ก.ย.2565) ศาลอาญา มีคำพิพากษาตัดสินประหารชีวิต คดีน.ส นิษฐา หรือแม่ปุ๊ก กรณีก่อเหตุวางยาเด็ก 4 ปีที่รับมาเลี้ยงดู เพื่อรับเงินบริจาค และทำร้ายลูกชายวัย 2 ขวบเสียชีวิต 

คดีดังกล่าว พนักงานอัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์ 3 โจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ณัฐติวรรณข้อหา ค้ามนุษย์ฯ เพื่อแสวงหาประโยชน์ฯ จากการนำคนมาขอทานฯ เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำรับอันตรายสาหัสและถึงแก่ความตาย, พยายามฆ่าผู้อื่นฯ, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นฯ ทำการขอทานฯ, ฉ้อโกงฯ, ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นฯ, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ ชักจูงฯ ใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการขอทาน

กรณีกล่าวหาว่า ระหว่างวันที่ 22 เม.ย.2558-12 ส.ค.2562 จำเลยซึ่งรับเด็กหญิง อายุ 4 ปีเศษ  (ผู้ตาย) จากมารดามาเลี้ยงอุปการะอยู่ในบ้านจำเลย

ขณะรับเลี้ยงนั้นให้เด็กกลืนอาหารที่มีการผสมสารมีฤทธิ์กัดกร่อน ต่อเนื่องกันหลายครั้งเป็นเหตุให้เด็กมีอาการบาดเจ็บทางเดินอาหาร ความดันโลหิตสูงรุนแรง อาเจียนเป็นเลือด จนต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลหลายครั้ง จำเลยนำภาพของเด็กขณะที่เจ็บป่วย ไปโพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัว เชิญชวนประชาชนเกิดความสงสาร มาร่วมช่วยเหลือซื้อสินค้าต่างๆ และขอรับบริจาคค่ารักษาพยาบาล

นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 10 ก.ย.60-18 พ.ค.63 จำเลยได้ทำให้บุตรของจำเลย ซึ่งเป็นเด็กชาย อายุ 2 ปีเศษ (ผู้เสียหายที่ 1) บาดเจ็บสาหัส จากการกลืนกินอาหารที่มีสารฤทธิ์กัดกร่อนผสมอยู่ต่อเนื่องหลายครั้ง

โดยจำเลยโพสต์ภาพเด็กขณะเจ็บป่วยเชิญชวนให้มีการบริจาคเช่นเดียวกัน ซึ่งมีผู้เสียหายที่ 2-6 เกิดความสงสาร และได้ร่วมบริจาคผ่านบัญชีของจำเลย ระหว่างการพิจารณาจำเลยให้การรับสารภาพ (ระหว่างพิจารณาจำเลยถูกคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง)

ศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 มาตรา 6 (1)(2), 35, 52 วรรคสาม, 53/1 (1)(2) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 91, 289, 290, 342, 343 วรรคสอง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (1)(2) พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาตรา 26(5), 78 พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ.2559 มาตรา 13 (2) วรรคหนึ่ง, 19

อ่านข่าวเพิ่ม เตรียมแจ้งข้อหาค้ามนุษย์ "แม่ปุ๊ก" คดีวางยาเด็กเอาเงินบริจาค

เปิดข้อหาความผิด "แม่ปุ๊ก" 

การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานค้ามนุษย์โดยเป็นธุระจัดหาฯ จัดให้อยู่อาศัยหรือรับไว้ซึ่งเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี เพื่อแสงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการนำคนมาขอทาน หรือการอื่นที่คล้ายคลึงกัน อันเป็นการขูดรีดบุคคลไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตาย และเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำรับอันตรายสาหัส

ฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ทำการขอทานโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, ชักจูงส่งเสริมยินยอมหรือกระทำ ด้วยประการใดให้เด็กไปเป็นขอทาน หรือใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการขอทานหรือกระทำผิดเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานค้ามนุษย์โดยเป็นธุระจัดหาฯ จัดให้อยู่อาศัยหรือรับไว้ซึ่งเด็กอายุไม่เกิน 15  ปี พื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการนำคนมาขอทานหรือการอื่นใดที่คล้ายคลึงกันอันเป็นการขูดรีดบุคคลไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตาย ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ประหารชีวิต

ลงโทษฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จำคุกตลอดชีวิต

ฐานฉ้อโกงโดยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน, ฐานฉ้อโกงโดยการแสดง ข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายบท

อ่านข่าวเพิ่ม ไม่ได้ป่วยจากโรค! แพทย์ มธ.สรุปเด็ก 2 คนถูกวางยาให้ป่วย 

ให้ลงโทษฐานฉ้อโกงโดยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ซึ่งเป็นหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 6 กระทงๆ ละ 5 ปี เป็นจำคุก 30 ปี

ส่วนที่จำเลยให้การรับสารภาพนั้น เพราะจำนนต่อหลักฐาน จึงไม่ลดโทษให้ โดยเมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงให้ประหารชีวิตสถานเดียว

ทั้งนี้เมื่อจำเลยต้องโทษประหารชีวิตแล้ว จึงไม่อาจนำโทษที่โจทก์ขอบวกโทษมารวมเข้ากับคดีนี้ได้อีก และไม่นับโทษจำเลยต่อจากคดีที่โจทก์ขอ

โดยศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยคืนเงิน จำนวน 31,600 บาท จำนวน 2,000 บาท จำนวน 3,800 บาท จำนวน 3,140 บาท จำนวน 2,400 บาท แก่ผู้เสียหายที่ 2-6 ตามลำดับด้วย และให้ ริบโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลางด้วย

คดีดังกล่าว เมื่อปี 2563 บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี ได้รับการประสานจากทีมแพทย์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ที่ตรวจพบสารกัดกร่อน ผ่านทางช่องปากเด็กชายอายุ 2 ปี ในระหว่างการรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในที่ห้องพิเศษของโรงพยาบาล 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผลตรวจดีเอ็นเอ "แม่ปุ๊ก" ตรงกับ ด.ช. 2 ขวบ ยืนยันเป็นแม่ลูกจริง

พฐ.ตรวจ DNA ขวดยา "แม่ปุ๊ก" ยังไม่เปิดเผยมีใครเกี่ยวข้อง

ตร.ยังไม่แจ้งข้อหาใครเพิ่มคดีวางยาเด็ก รอผลตรวจสารพิษ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง