ตร.-สบส.บุกรวบหมอกระเป๋า ลอบฉีดโบท็อกซ์-ฟิลเลอร์กลางกรุงฯ

อาชญากรรม
21 ก.ย. 65
11:26
285
Logo Thai PBS
ตร.-สบส.บุกรวบหมอกระเป๋า ลอบฉีดโบท็อกซ์-ฟิลเลอร์กลางกรุงฯ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วม สบส.รวบหมอกระเป๋า ลักลอบฉีดโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ ใน ซ.วิภาวดีรังสิต 20 พบยาไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา รวมถึงอุปกรณ์การให้บริการ และประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต

วันนี้ (20 ก.ย.2565) ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมจับกุม น.ส.กัลยา และ น.ส.จรรยมณฑน์ ภายหลังได้รับแจ้งจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “WA Janya” ให้บริการฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ นอกสถานที่ โดยโฆษณาว่าฉีดกับพยาบาล

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการสืบสวนจนทราบถึงสถานที่ที่ใช้นัดหมายกลุ่มผู้ใช้บริการจึงเข้าตรวจสอบห้องพัก ในคอนโดแห่งหนึ่ง ภายในซอยวิภาวดีรังสิต 20 พบว่า มีการให้บริการฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ให้กลุ่มผู้รับบริการจริง ซึ่งมี น.ส.จรรยมณฑน์ อยู่ในห้องและพบยาแผนปัจจุบัน ยาไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา รวมถึงอุปกรณ์การให้บริการ และเวชภัณฑ์ในลักษณะเตรียมพร้อมสำหรับผู้มารับบริการ จำนวน 21 รายการ


เจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมของ น.ส.กัลยา ได้นำใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมการพยาบาลและการผดุงครรภ์ มาแสดงกับเจ้าหน้าที่ ส่วนสถานที่ดังกล่าวไม่ได้ขออนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลแต่อย่างใด ตำรวจจึงจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมตรวจยึดของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.4 ดำเนินคดี พร้อมกล่าวหาว่า "ร่วมกันประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันดำเนินกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต"

ในกรณี ของ น.ส.กัลยา ถูกจับกุมดำเนินคดีอีกใน 3 ฐานความผิด คือ ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 และขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา ตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510

ทั้งนี้ นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า การฉีดสารเสริมความงามนั้น ถือว่าเป็นการประกอบวิชาชีพเวชกรรม ต้องกระทำโดยแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพ และต้องให้บริการภายในสถานพยาบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่มีการให้บริการเดินสายให้บริการนอกสถานที่แต่อย่างใด ซึ่งการฉีดสารเสริมความงามด้วยบุคคลที่มิใช่แพทย์นั้น ย่อมส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย จนเกิดความพิการ หรืออาจจะรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต จากการที่สารเสริมความงามรั่วไหลเข้าไปอุดตันในเส้นเลือดจนตาบอด หรือเกิดการติดเชื้อได้

สำหรับประชาชนได้รับอันตรายจากบริการทางการแพทย์ของสถานพยาบาลเอกชน หรือมีเบาะแสการกระทำผิดของหมอเถื่อน หมอกระเป๋า สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรม สบส.1426

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง