ฝนตกหนักทำน้ำท่วมพื้นที่การเกษตร จ.บุรีรัมย์ กว่า 7 หมื่นไร่

ภูมิภาค
22 ก.ย. 65
06:37
356
Logo Thai PBS
ฝนตกหนักทำน้ำท่วมพื้นที่การเกษตร จ.บุรีรัมย์ กว่า 7 หมื่นไร่
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า ช่วง 5 วันนี้ ภาคอีสานยังมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ทำให้หลายจังหวัดยังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ เพราะยังมีน้ำท่วมหลายพื้นที่

ฝนที่ตกต่อเนื่องในพื้นที่ภาคอีสาน โดยเฉพาะ จ.บุรีรัมย์ ได้รับผลกระทบในพื้นที่ 10 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองบุรีรัมย์, อ.บ้านด่าน, อ.สตึก, อ.บ้านใหม่ไชยพจน์, อ.พุทไธสง, อ.แคนดง, อ.ชำนิ, อ.คูเมือง, อ.พลับพลาชัย และ อ.นาโพธิ์

ทั้งนี้ฝนที่ตกต่อเนื่องและมีน้ำจากจังหวัดใกล้เคียงไหลลงมาที่แม่น้ำมูล ลำสะแทด และลำน้ำธรรมชาติ ที่ไหลผ่าน จ.บุรีรัมย์ จึงทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งท่วมพื้นที่การเกษตรเป็นบริเวณกว้าง

ขณะนี้พื้นที่ทางการเกษตรได้รับผลกระทบอย่างมากทั้ง นาข้าว ไร่อ้อย มันสำปะหลัง ปาล์ม และยางพารา รวมกว่า 7.1 หมื่นไร่

ผู้นำหมู่บ้านและท้องถิ่น อยู่ระหว่างสำรวจพื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเสียหาย เพื่อรายงานอำเภอ ปภ.จังหวัด และ จ.บุรีรัมย์ เพื่อพิจารณาประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยต่อไป

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ จ.บุรีรัมย์ ได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติแล้ว 4 อำเภอ คือ ที่อำเภอเมืองบุรีรัมย์, อ.บ้านด่าน, อ.สตึก และ อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ 

อ.พิมาย ปักธงแดง เฝ้าระวังน้ำท่วม

อีกหนึ่งจังหวัดที่เกิดน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง คือ จ.นครราชสีมา ซึ่งขณะนี้ในพื้นที่ อ.พิมาย ยังมีน้ำท่วมหลายจุดเป็นบริเวณกว้าง หลังน้ำจากลำน้ำมูลใน ต.สัมฤทธิ์ ยังมีระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนล้นตลิ่ง ไหลเข้าท่วมนาข้าวที่อยู่ติดกับลำน้ำมูล เสียหายแล้วกว่า 1,000 ไร่

ในขณะที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอพิมาย ได้ปักธงแดง แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ ต.สัมฤทธิ์ แล้วว่า อาจจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันภายใน 3 - 6 ชม.จึงขอให้ชาวบ้านขนย้ายทรัพย์สินไปอยู่ที่ที่ปลอดภัย

ด้าน อบต.สัมฤทธิ์ ได้เปลี่ยนระดับธงแจ้งเตือนภัยเป็นสีแดง แล้วเช่นกัน พร้อมกับจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินท้องถิ่นกรณีอุทกภัย เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยเร็ว

ส่วนระดับน้ำภายในเขื่อนพิมาย ตอนนี้เกินระดับวิกฤติแล้ว เจ้าหน้าที่ส่งน้ำและบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์ ต้องเดินเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 20 เครื่อง

รวมถึงเปิดประตูระบายน้ำทั้ง 6 บาน เร่งผลักดันน้ำเหนือเขื่อนพิมายลงสู่ลำน้ำมูล และคลองชลประทานโดยเร็ว เพื่อป้องกันน้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมอุทยานปราสาทหินพิมาย และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย

ขณะนี้เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ฯ ได้วางกระสอบทรายเป็นแนวกั้นบริเวณโดยรอบพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมภายในตัวอาคารสำนักงานฯ และท่วมวัตถุโบราณจนอาจจะได้รับความเสียหาย

ล่าสุด สถานการณ์น้ำในพื้นที่ อ.พิมาย ยังต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะปริมาณน้ำเหนือเขื่อนพิมายเพิ่มระดับสูงขึ้นต่อเนื่องทุกวัน ระดับน้ำในลำน้ำมูลเหนือเขื่อนพิมาย อยู่ที่ 7.25 เมตร ต่ำกว่าตลิ่งแค่ 0.33 เมตร เท่านั้น 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง