ไทยป่วยซึมเศร้า 3.38 หมื่นคน ดัน "ยาจิตเวช" เพิ่มในบัญชียาหลัก

สังคม
25 ก.ย. 65
16:38
531
Logo Thai PBS
ไทยป่วยซึมเศร้า 3.38 หมื่นคน ดัน "ยาจิตเวช" เพิ่มในบัญชียาหลัก
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมสุขภาพจิต เผยผู้ป่วยจิตเวชมีแนวโน้มสูงขึ้น ปี 64 ป่วยซึมเศร้าเพิ่มเป็น 33,891 คน จาก 30,247 คนในปี 62 เตรียมผลักดันยาจิตเวชเพิ่มในบัญชียาหลักร่วมกับ สปสช.ให้คุ้มครองสวัสดิการรักษามากขึ้น

วันนี้ (25 ก.ย.2565) พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า จากรายงานศูนย์ข้อมูลสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข พบว่า จำนวนผู้ป่วยจิตเวชมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เช่น ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าเพิ่มขึ้นจาก 30,247 คน ในปี 2562 เป็น 33,891 คน ในปี 2564 ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มเดียวกันกับสถานการณ์ทั่วโลก

ส่วนหนึ่งเกิดจากวิกฤตการระบาดของไวรัส COVID-19 ในส่วนของไทยนั้น กระทรวงสาธารณสุขได้ทำงานเชิงรุกในการสร้างเครือข่ายเพื่อการคัดกรองค้นหากลุ่มเสี่ยงและผู้ป่วยทางจิตเวชเพิ่มขึ้น เพื่อประโยชน์ในการเข้าถึงบริการ

ผลักดัน "ยาจิตเวช" เพิ่มในบัญชีหลัก

อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อห่วงใยจากหลายภาคส่วนถึงความพร้อมด้านการตรวจรักษา ที่ยังจำเป็นต้องเร่งขยายศักยภาพและเพิ่มคุณภาพ ไม่เพียงเฉพาะการเปิดบริการหอผู้ป่วยจิตเวชเพิ่มเติมในโรงพยาบาล 30 แห่งทั่วประเทศ เพื่อรองรับการรักษาและส่งต่อร่วมกับโรงพยาบาลทางจิตเวชที่มีอยู่ 20 แห่ง ยังได้ประสานงานร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อผลักดันยาจิตเวชที่จำเป็นเข้าสู่บัญชียาหลักเพิ่มเติม รวมทั้งพิจารณาหลักประกันสุขภาพให้ครอบคลุมถึงการรักษาที่ทันสมัยทั้งที่หน่วยรักษาพยาบาลและในชุมชนด้วย

ปัจจุบันไทยมีจิตแพทย์ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 325 คน ส่วนบุคลากรด้านสุขภาพจิตสาขาอื่น ๆ เช่น พยาบาลจิตเวช นักจิตวิทยา ในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขมีถึง 2,838 คน ถือเป็นสัดส่วนที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับประเทศในแถบเอเชียด้วยกัน

แนะครอบครัว-คนใกล้ชิด ใช้หลัก 3 ส.

พญ.อัมพร กล่าวว่า นอกจากบริการทางการแพทย์และยา ครอบครัวและคนใกล้ชิดเป็นกลุ่มคนสำคัญที่จะช่วยสังเกตอาการและช่วยเหลือเบื้องต้นได้ โดยสามารถใช้หลักการ 3 ส. สอดส่องมองหา ใส่ใจรับฟัง และส่งต่อเชื่อมโยง การใส่ใจรับฟัง เติมพลังใจจากคนในครอบครัว จะเป็นพลังสำคัญในการช่วยผู้ป่วยจิตเวชให้หายทุเลา และกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างบุคคลอื่นทั่วไปได้ อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญที่สุด คือการป้องกันและใส่ใจดูแลกันและกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาสุขภาพจิตหรือเจ็บป่วยเป็นโรคทางจิตเวช

ข่าวที่เกี่ยวข้อง