"สุทิน" เผย ปมศาล รธน.ตัดสิน "หาร 100" ปัจจัยสำคัญอนาคตการเมืองไทย

การเมือง
3 ต.ค. 65
14:08
373
Logo Thai PBS
"สุทิน" เผย ปมศาล รธน.ตัดสิน "หาร 100" ปัจจัยสำคัญอนาคตการเมืองไทย
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"สุทิน" วิเคราะห์อนาคตทางการเมืองไทย ขึ้นอยู่กับศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปมหาร 100 ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ชี้หากผลออกมาเป็นลบเสี่ยงถึงทางตัน

หลัง ศาลวินิจฉัยให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ สามารถดำรงตำแหน่งนายกฯ ต่อไปได้ เนื่องจากเป็นนายกฯยังไม่ครบ 8 ปี 

นายสุทิน คลังแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการ "มุมการเมือง" ทางไทยพีบีเอส โดยมองว่า อนาคตทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ก่อนวันที่ 30 ก.ย.2565 มีการคำนวณในหลายสูตร แต่เมื่อผลออกมา พล.อ.ประยุทธ์ ได้ไปต่อ อำนาจก็กลับมาอยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งอยู่กับว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะยังคงอยู่ต่อไป หรือ เลิกเล่นการเมือง ในครบวาระรัฐบาลในเดือน มี.ค.2566 ก็ไม่สามารถมีใครที่จะทายใจ พล.อ.ประยุทธ์ ได้

แต่การจะเปิดสภาฯในสมัยฯหน้า เชื่อว่า ความไม่เป็นเอกภาพภายในรัฐบาลจะมากขึ้น โดยเฉพาะในพรรคพลังประชารัฐ ระหว่าง พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์ จะมีปัญหามากขึ้น คิดว่าจะส่งผลต่อเสถียรภาพรัฐบาล เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ต่อ หรือ จะถอย ขึ้นอยู่กับกติกาการเลือกตั้งด้วย

ปัจจัยหนึ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะใช้ตัดสินใจ และไม่ควรมองข้ามคือ กฎหมายลูก ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญเช่น กรณีหาร 100 หากไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ทุกอย่างก็เดินไปสู่การเลือกตั้งได้ แต่หากศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่าขัดรัฐธรรมนูญอันนี้ก็จะยุ่ง เมื่อหาร 100 ไม่ได้ หาร 500 ก็ยังไม่ใช่ว่าจะชนะได้ ซึ่งการเมืองก็จะเข้าทางตัน เพราะไม่มีกฎหมายเลือกตั้ง

นายสุทิน ระบุว่า ทางตันคือ ในเมื่อไม่มีกฎหมายเลือกตั้ง ก็จะกลับไปดูที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็จะมีปัญหาว่าจะเสร็จทันหรือไม่ เนื่องจากสภาฯเหลือเวลาไม่ถึง 4 เดือน และอาจจะไม่ทันในเงื่อนระยะเวลาจัดการเลือกตั้งในวันที่ 7 พ.ค.เนื่องจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้นก็ต้องมีกฎหมายลูก ซึ่งอาจจะไม่ทันและจะต้องทำอย่างไร เช่น จะเลื่อนการเลือกตั้งหรือไม่ ซึ่งมี 2 วิธี เช่น แก้กฎหมายรัฐธรรมนูญที่ระบุว่า จะต้องเลือกตั้งภายในกำหนดในวันที่เท่าใด ซึ่งก็ไม่ทราบได้ว่าจะใช้สภาฯใดแก้ นอกจากนี้ก็เหลืออีกวิธีคือ การรัฐประหารเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ

คิดว่าการเมืองหลังวันที่ 30 ก.ย.เป็นไปได้หลายทางคือ 1.เดินไปสู่การเลือกตั้งตามปกติ ตามระยะเวลา ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่า กฎหมายเลือกตั้งหาร 100 ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ 2.การเมืองเดินไปสู่ทางตันเลือกตั้งไม่ได้ หากศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าหาร 100 ขัดรัฐธรรมนูญ และ 3. การแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยแก้วิธีปกติไม่ได้เกรงว่าจะแก้โดยวิธีไม่ปกติ ก็น่ากลัว

ทั้งนี้ ต้องพิจารณาว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะชี้ขาดในเรื่องดังกล่าวเมื่อใด คาดว่าไม่เกินน 1 เดือน จะชี้ว่ากฎหมายลูกขัดหรือไม่ขัด ซึ่งหากไม่ขัดก็ไม่มีปัญหา แต่หากชี้ว่าขัด กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะเริ่มทันที แต่แม้ว่าจะเริ่มเร็วก็อาจจะไม่ทัน ซึ่งต้องพิจารณาในช่วงระยะเวลาหลังปีใหม่จะมีแววว่าจะเสร็จทันหรือไม่

นายสุทิน ยังกล่าวถึง กรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อนำปม 8 ปี ออกจากรัฐธรรมนูญว่า หากไม่เกรงใจประชาชน หรือไม่แคร์ความรู้สึกประชาชนก็สามารถทำได้ทุกอย่าง เช่น แก้ไขกฎหมายเพื่อยืดการเลือกตั้ง หรือแก้ไขปม 8 ปี และ 3 แก้ไขกฎหมายเพื่อต่ออายุ ส.ว.ซึ่งอำนาจในการเลือกนายกฯจะหมดใน 1 ปีข้างหน้า โดยสามารถทำได้หมดหากไม่เกรงใจประชาชน

นายสุทิน ยังกล่าวถึงบทบาทของฝ่ายค้านต่อไปว่าในเวลาอีก 5 เดือนต่อจากนี้ไปอะไรที่สามารถถ่วงดุลหรือตรวจสอบรัฐบาลได้ก็จะทำ เช่น การเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 หรือ อภิปรายโดยไม่ลงมติ ซึ่งสามารถซักถามในประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนก็อาจจะหยิบยกขึ้นมาใช้ และนอกนั้นจะเป็นเรื่องการยื่นกระทู้ หรือ ยื่นญัตติซึ่งเป็นกระบวนการตามระบบ 

ทั้งนี้ หากมีคนที่ไม่ใช้หากไม่ใช่กระบวนการตามระบบก็อาจมีผู้ออกมาชุมนุมในท้องถนน วิธีการปลุกระดมประชาชน ซึ่งไม่คิดจะทำ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง