บทเรียนสื่อไทย-ตปท. กรณี CNN ที่หนองบัวลำภู

สังคม
10 ต.ค. 65
17:32
3,590
Logo Thai PBS
บทเรียนสื่อไทย-ตปท. กรณี CNN ที่หนองบัวลำภู
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ประธานสภาวิชาชีพฯ ระบุ นักข่าว CNN ออกมาขอโทษ เป็นการสำนึกในสิ่งที่กระทำ มองเป็นบทเรียนให้สื่อ ย้ำ สื่อไทย-สื่อเทศ ยึดหลักจริยธรรมเดียวกัน

วันนี้ (10 ต.ค.2565) นายสุปัน รักเชื้อ ประธานสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เปิดเผยกับไทยพีบีเอสออนไลน์ ถึงกรณีทีมนักข่าวและช่างภาพ ของสำนักข่าว CNN ได้รุกล้ำเข้าไปในบริเวณพื้นที่เหตุหวงห้ามของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู เพื่อบันทึกภาพข่าวและเผยแพร่ออกอากาศ

กรณีดังกล่าว ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ใช่วิสัยที่ควรกระทำ แต่การที่นักข่าวทั้ง 2 คน ได้สำนึกในสิ่งที่กระทำลงไป สำนึกความเป็นวิชาชีพ ออกมาขอโทษ รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้ว ส่วนเรื่องใช้วีซ่านักท่องเที่ยว และเสียค่าปรับคนละ 5,000 บาท เป็นเรื่องของทางกฎหมายต้องดำเนินการ

โดยจากกรณีนี้ทางสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย หรือ FCCT ก็ได้ออกแถลงการณ์ ตำหนิถึงการกระทำดังกล่าว

หลังจากนี้ในส่วนของสภาวิชาชีพคงไม่เคลื่อนไหวในประเด็นดังกล่าวต่อ เมื่อนักข่าวทั้ง 2 คนได้สำนึกในสิ่งที่กระทำลงไปแล้ว

นายสุปัน ยังกล่าวว่า โดยหลักการแล้วทั้งสื่อไทยและสื่อต่างประเทศที่ทำข่าวในประเทศไทยใช้หลักมาตรฐานทางจริยธรรมเดียวกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับต้นสังกัดของนักข่าวนั้น และตัวนักข่าวเองที่ควรวิจารณญาณและไตร่ตรองในการนำเสนอข่าวด้วย

จากข่าวที่สะเทือนขวัญกับการนำเสนอข่าวดังกล่าวของสื่อไทย โดยภาพรวมถือว่าเป็นปรากฏการณ์ที่สื่อไทยเคารพในจรรยาบรรณวิชาชีพ มีมาตรฐานจริยธรรมที่ดีขึ้น

แต่ยังมีสื่อบางสำนักที่ถูกตั้งคำถามจากโลกออนไลน์ถึงความไม่เหมาะสมในการนำเสนอ ทั้งจากนักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน และประชาชนที่เสพข่าว ก็เห็นว่าจะมีการร้องเรียนเข้ามายังสภาวิชาชีพฯ และ กสทช. ถ้ามีการร้องเรียนเข้ามา ทางสภาวิชาชีพข่าวก็จะมีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อร้องเรียนดังกล่าว

กรณีนักข่าว CNN ถูกตั้งคำถามด้านจริยธรรม จนนำไปสู่การแถลงขอโทษทั้งตัวองค์กรและตัวนักข่าวเอง นับว่าเป็นบทเรียนให้กับสื่อ และ เป็นมาตรฐานที่สื่อบ้านเราเองก็ต้องยึดถือเป็นบรรทัดฐาน และต้องตระหนักรวมถึงคำนึงถึงการระมัดระวังในการนำเสนอข่าวสารในกรณีเยี่ยงนี้ให้มากขึ้นด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง