#หยุดผูกขาดมือถือ ติดเทรนด์ จับตา กสทช.ถกควบรวม "ทรู-ดีแทค"

เศรษฐกิจ
12 ต.ค. 65
07:42
777
Logo Thai PBS
#หยุดผูกขาดมือถือ ติดเทรนด์ จับตา กสทช.ถกควบรวม "ทรู-ดีแทค"
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
#หยุดผูกขาดมือถือ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ไทย หลังมีรายงานว่า วันนี้ (12 ต.ค.65) ประเด็นการควบรวมธุรกิจทรูและดีแทคจะถูกบรรจุในวาระประชุมของคณะกรรมการ กสทช.แล้ว แต่อาจยังลงมติไม่ได้ เพราะต้องศึกษาตัวอย่างจากต่างประเทศเพิ่มเติม

วันนี้ (12 ต.ค.2565) แฮชแท็ก #หยุดผูกขาดมือถือ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ไทย หลังมีรายงานว่า ประเด็นการควบรวมธุรกิจทรูและดีแทคจะถูกบรรจุในวาระประชุมของคณะกรรมการ กสทช.ในวันนี้ โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้กว่า 80,000 ทวีต โดยมีความกังวลเกี่ยวกับการควบรวมของทรูและดีแทคที่อาจนำไปสู่การผูกขาดทางการตลาด เนื่องจากผู้ให้บริการที่เหลือเพียง 2 เจ้าใหญ่ อาจดีลขึ้นราคาค่าบริการ จากที่ผ่านมามีผู้ให้บริการ 3 เจ้าทำให้มีการแข่งขันกันทั้งเชิงประสิทธิภาพและราคา 


ทวิตเตอร์ สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้ทวีตข้อความ ระบุว่า ผู้บริโภคสนับสนุนให้ กสทช.ทำหน้าที่ตัวเองตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญปี 60 ด้วยการไม่อนุญาตควบรวมทรูดีแทค เพื่อประโยชน์ของประชาชนและประโยชน์สาธารณะ พร้อมเชิญชวนให้ประชาชนร่วมจับตาการพิจารณาประเด็นนี้ร่วมกัน

ขณะที่โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) ได้ทวีตคลิปวิดีโออธิบายเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับประชาชนหากการควบรวมของทรูและดีแทคสำเร็จ พร้อมทวีตแคมเปญ รณรงค์ต่อต้านการผูกขาดทางการค้ากรณีการควบรวมกิจการระหว่างทรูและดีแทค ที่มีการเปิดล่ารายชื่อผ่าน change.org ตั้งแต่ 8 เดือนก่อน ล่าสุด มีผู้ลงชื่อสนับสนุนแคมเปญนี้แล้ว 23,507 คน


สอดคล้องกับนายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Somkiet Tangkitvanich ระบุว่า ประชาชนควรจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะจากการวิเคราะห์ด้านเศรษฐศาสตร์ชี้ชัดว่าการควบรวมก่อให้เกิดผลเสีย ราคาค่าบริการหลังควบรวมอาจสูงขึ้น ร้อยละ 2-23 ในกรณีที่ไม่มีการสมคบราคา หรือ ฮั้วกัน ระหว่างผู้ประกอบการ 2 รายที่เหลืออยู่ แต่หากมีการฮั้วราคา อัตราค่าบริการอาจสูงขึ้นถึง 1.2 เท่า - 2.4 เท่า และ GDP ของประเทศจะหดตัวลง ร้อยละ 0.5-0.6

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา ตัวแทนบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น และ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น ได้ร่วมกันยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการ กสทช. โดย พล.อ.กิตติ เกตุศรี ผู้ปฏิบัติงานประจำประธาน กสทช.เป็นผู้มารับหนังสือ

ตัวแทนของบริษัททรู คอร์ปอเรชั่น ระบุว่า ต้องการให้ กสทช.พิจารณาการควบรวมโดยเร็ว เพราะผ่านมา 9 เดือนแล้ว แต่ยังไม่มีบทสรุปอย่างเป็นทางการ ซึ่งตามปกติต้องพิจารณาภายใน 90 วัน และความล่าช้าส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคของทรูและดีแทค เพราะใช้บริการและโครงข่ายร่วมกันไม่ได้

ทั้งนี้ นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการ กสทช. ประเมินว่า อาจเป็นการอนุญาตโดยมีเงื่อนไข ส่วนเข้มข้นหรือไม่จะต้องติดตามกันอีกครั้ง พร้อมยกตัวอย่าง กรณีเงื่อนไขเข้มข้น จะให้ธุรกิจขายบางกิจการออกไป หากไม่เข้มข้น ก็ยังให้ธุรกิจถือทรัพย์สินทุกอย่างเหมือนเดิม แต่จะกำกับพฤติกรรม

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง