"ไทย-ออสเตรเลีย" จับมือตั้งศูนย์ต่อต้านค้ามนุษย์

อาชญากรรม
25 ต.ค. 65
18:18
372
Logo Thai PBS
"ไทย-ออสเตรเลีย" จับมือตั้งศูนย์ต่อต้านค้ามนุษย์
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ประเทศไทยจับมือออสเตรเลียจัดตั้ง "ศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์" ในไทย เตรียมลงนาม MOU วันที่ 2 พ.ย.นี้

วันนี้ (25 ต.ค.2565) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย ในการจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ โดยจะมีพิธีลงนามร่างบันทึกความเข้าใจในวันที่ 2 พ.ย.นี้ที่ทำเนียบรัฐบาล

ร่างบันทึกความเข้าใจฉบับนี้มีผลบังคับใช้ 5 ปี จัดทำขึ้นเพื่อสร้างกรอบความร่วมมือระหว่างภาคีที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ร่วมกัน ในการต่อต้านการค้ามนุษย์และอาชญากรรมที่เกี่ยวข้อง ผ่านศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ที่จัดตั้งขึ้นในไทย ซึ่งคาดว่าจะจัดตั้ง ณ อาคารกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในไทยและประเทศสมาชิกอาเซียน ในการเสริมสร้างทักษะการป้องกัน การตรวจสอบและการดำเนินคดีกับการค้ามนุษย์และอาชญากรรมที่เกี่ยวข้อง, เสริมสร้างขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย ความร่วมมือการสืบสวนข้ามชาติ และการแบ่งปันข่าวกรองเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์และอาชญากรรมที่เกี่ยวข้อง รวมถึงส่งเสริมการแบ่งปันความรู้และการแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพในการต่อต้านการค้ามนุษย์และอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องระหว่างคู่ภาคีและภายในภูมิภาคอาเซียน

รองโฆษกสำนักนายกฯ กล่าวอีกว่า ทั้ง 2 ประเทศจะขับเคลื่อนความร่วมมือผ่านการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อขับเคลื่อนศูนย์ความเป็นเลิศฯ ซึ่งประกอบด้วย ผู้แทนระดับอาวุโสของภาคีแต่ละฝ่ายและผู้แทนอื่นๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยฝ่ายออสเตรเลียจะสนับสนุนด้านเลขานุการ พร้อมทั้งกำหนดให้มีการประชุมร่วมกันอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อการตัดสินใจ กำหนดทิศทางเชิงกลยุทธ์ และการกำกับดูแลของศูนย์ความเป็นเลิศฯ และจะให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิค เพื่อกำหนดหลักสูตรและพัฒนานโยบายขั้นตอนการปฏิบัติงานของศูนย์ความเป็นเลิศฯ โดยมีกระทรวงการต่างประเทศและการค้าเป็นหน่วยประสานงาน

ส่วนการสนับสนุนของคู่ภาคีนั้น ฝ่ายไทยจะสนับสนุนด้านการปฏิบัติงานและงบประมาณสำหรับที่ตั้ง และสิ่งอำนวยความสะดวกทางกายภาพของศูนย์ความเป็นเลิศฯ พร้อมทั้งจัดหาทรัพยากรมนุษย์และงบประมาณในการจัดการ รวมถึงโครงการและค่าใช้จ่ายในการจัดหลักสูตรฝึกอบรมและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง โดยมีกระทรวงยุติธรรม เป็นหน่วยประสานงาน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง