อังกฤษ : สุภาพสตรีหมายเลข 1 สวย-เก่ง-มั่งคั่ง ที่กระทบความมั่นคง

ต่างประเทศ
26 ต.ค. 65
17:29
3,306
Logo Thai PBS
อังกฤษ : สุภาพสตรีหมายเลข 1 สวย-เก่ง-มั่งคั่ง ที่กระทบความมั่นคง
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
สื่อให้ความสนใจกับ "รีชี ซูนัค" ในฐานะ นายกฯ ที่รวยที่สุดของอังกฤษ แต่ความสนใจเพิ่มมากขึ้น เมื่อสตรีหมายเลข 1 ของอังกฤษขณะนี้ เข้าขั้น อภิมหาเศรษฐี ความร่ำรวยของครอบครัวนายกฯ ที่กำลังสร้างปัญหาขึ้นมาว่า คนรวยจะสามารถเข้าใจคนจนได้มากน้อยแค่ไหน

“ส.ส.ที่รวยที่สุดในอังกฤษ” เป็นคำห้อยท้ายชื่อของนาย “รีชี ซูนัค” หลังจากที่เข้าสู่เส้นทางการเมืองอังกฤษด้วยตำแหน่ง ส.ส. ของพรรคคอนเซอร์เวทีฟ ในเมืองริชมอนด์ มณฑลยอร์กเชียร์ ปี 2005

แม้ ซูนัค จะไม่เคยพูดถึงความมั่งคั่งของตัวเองอย่างเปิดเผย แต่ปูมหลังของครอบครัว ซูนัค ก็เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในสังคมอังกฤษ

เนื่องจากครอบครัวทำงานเกี่ยวกับแพทย์ ร้านขายยา และคุณตาของ ซูนัค ยังเคยทำงานให้ประเทศอังกฤษในยุคนั้น จนได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์มาด้วย แต่ความร่ำรวยของ ซูนัค กลับได้รับความสนใจจากสังคมเพิ่มมากขึ้น เรียกว่า จากร่ำรวยเป็นเศรษฐี ต้องเรียกใหม่ว่า อภิมหาเศรษฐี (Ultra Rich) เมื่อในปี 2009 ซูนัค ได้แต่งงานกับลูกสาวมหาเศรษฐีของอินเดีย “อัคชาตา มูรตี”

อัคชาตา มูรตี ชีวิตที่มาจากดิน

อัคชาตา มูรตี เกิดในครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวยเหมือน ซูนัค พ่อของเธอบอกกับ BBC ว่า เมื่อเดือน เมษายน ปี 1980 วันที่ลูกสาวของเขาเกิดมา เขาได้รู้ข่าวจากเพื่อนที่ทำงานกับเขาด้วยซ้ำ เนื่องจากครอบครัวไม่มีเงินมากพอจะซื้อโทรศัพท์

มูรตี เติบโตมากับตายาย เพราะพ่อแม่ต้องเดินทางไปทำธุรกิจที่มุมไบ แต่โชคชะตาก็ไม่ได้ใจร้ายต่อ มูรตี และ พ่อแม่ของเธอมากนัก เพราะธุรกิจที่มุมไบ เติบโตแบบก้าวกระโดด ส่งผลให้ พ่อของ มูรตี เปิดบริษัทด้านไอทีเพิ่มขึ้นได้

และนั่นก็กลายเป็นแหล่งเงินทุนต่อยอดให้กับชีวิตครอบครัว มูรตี จนกระทั่งปัจจุบันนี้ พ่อของ มูรตี กลายเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยมากที่สุดคนหนึ่งในอินเดีย และได้รับสมญานามว่า “บิล เกตส์ แห่งอินเดีย”

แต่ความสำเร็จในชีวิตของ มูรตี ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความมั่งคั่งของครอบครัวเธอเพียงอย่างเดียว พ่อแม่ของมูรตี เลือกที่จะลงทุนในชีวิตของลูกสาวด้วยการให้การศึกษาที่ดี

พวกเขาต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อส่งลูกสาวไปเรียนเศรษฐศาสตร์และภาษาฝรั่งเศส ที่วิทยาลัยแคลร์มอนต์ แมคเคนนา ประเทศสหรัฐอเมริกา จนได้รับประกาศนียบัตร

จากนั้นศึกษาต่อหลักสูตรบริหารธุรกิจ MBA ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา และที่นี่คือที่ที่ "อัคชาตา มูรตี" ได้พบรักกับ “รีชี ซูนัค” และแต่งงานกันในปี 2009

ชีวิตที่อยู่กับเรื่องเงินๆ ทองๆ

จริงอยู่ที่ มูรตี เติบโตมาในครอบครัวที่มั่งคั่ง เธอมีหุ้นในบริษัทไอทีของพ่อเพียงร้อยละ 0.91 แต่จำนวนหุ้นเพียงเท่านี้ กลับตีเป็นมูลค่าทางการเงินได้ถึง 690 ล้านปอนด์

แต่ มูรตี ก็ใช้ความรู้ด้านการเงินจากที่เธอเรียนมา ทำงานที่บริษัทตรวจสอบบัญชีใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งติด 1 ใน 4 ของโลก และบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่

มูรตี มีความชื่นชอบส่วนตัวเรื่องของ แฟชั่น การแต่งตัว เสื้อผ้า และชุดส่าหรี ชุดประจำชาติอินเดีย เป็นที่สุด มูรตี ต่อเติมความฝันของตัวเองด้วยการเลือกไปเรียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำธุรกิจเสื้อผ้า จนนำมาทำแบรนด์เครื่องแต่งกายของเธอเอง ภายใต้ชื่อ “Akshata Designs” เธอบอกว่าต้องการ “ปกป้องมรดกอันล้ำค่าแห่งเส้นไหมอินเดีย”

เรื่องราวของความมั่งคั่งต่อความมั่นคง (ของสามี)

หลังจากการแต่งงานกับ รีชี ซูนัค เมื่อปี 2009 ดูเหมือนว่าเส้นทางความมั่งคั่งของครอบครัวนี้จะไม่ได้ราบรื่นเหมือนดั่งชีวิตมหาเศรษฐีทั่วไป

ซูนัคต้องเผชิญกับคำถามจากสังคมที่ว่า จะสามารถเข้าใจเศรษฐกิจชนชั้นรากหญ้าของอังกฤษได้อย่างไร ในเมื่อเขาใช้ชีวิตบนความร่ำรวยมาตลอด

ส่วน มูรตี หลังจากแต่งงานและย้ายมาอยู่ที่ประเทศอังกฤษกับสามี เธออ้างว่า เธอไม่ต้องจ่ายภาษีให้กับอังกฤษ เนื่องจากสถานะทางพลเมืองของ มูรตี เป็นเพียงคนต่างชาติที่อาศัยอยู่ในอังกฤษ

รายได้ต่างๆ ที่มูรตีได้มาจากต่างประเทศ จะไม่ถูกนำมาหักภาษีให้กับรัฐ ซึ่งวิธีการเช่นนี้ เป็นวิธีการของเศรษฐีหลายๆ คนในอังกฤษทำ เพื่อต้องการหลบเลี่ยงการจ่ายภาษี

นอกจากนั้น เธอไม่ได้ถือสัญชาติอังกฤษ และอินเดียก็มีกฎหมายไม่ให้พลเมืองถือ 2 สัญชาติ จากเหตุผลเหล่านี้ ทำให้มูรตีประหยัดเงินได้ราว 20 ล้านปอนด์ แต่จำนวนเงินก้อนนี้ กลับถูกจ่ายด้วยคะแนนนิยมในตัวของสามีเธอที่ลดต่ำลงทันที

มูรตี เลือกแก้ไขเหตุการณ์นี้ เพื่อเรียกคะแนนนิยมกลับมาให้สามี ด้วยการออกแถลงการณ์ว่า หลังจากเดือนเมษายน 2022 เป็นต้นไป เธอจะจ่ายภาษีให้รัฐจากรายได้ ผลกำไร และเงินปันผลที่ได้มาจากทั่วโลก และการกระทำของเธอ เธอทำเพราะเธอต้องการจะทำด้วยตัวเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการถูกบังคับ หรือกฎหมายใดๆเลย

นอกจากนั้น บริษัทไอทีที่พ่อของเธอเป็นเจ้าของและมีสาขาทั่วโลก 1 ในสาขาที่ทำให้เป็นประเด็นสั่นคลอนความน่าเชื่อถือของสามีเธออีกก็คือ สาขาในกรุงมอสโก บวกกับ ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อของมูรตี และ ปธน.รัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน เนื่องจาก พ่อของ มูรตี เคยพา ปูติน ทัวร์รอบบริษัทไอทีของตัวเองในปี 2004

ทำให้เกิดคำถามเป็นวงกว้างในสังคมว่า ในขณะที่หลายบริษัทเลือกจะคว่ำบาตรการทำธุรกิจกับรัสเซียเนื่องจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน หรือแม้กระทั่ง ซูนัค เอง ก็เคยออกมาเรียกร้องให้หลายบริษัทถอนตัวออกจากรัสเซีย แต่ทำไมบริษัทไอทีแห่งนี้ ยังคงทำธุรกิจอยู่ในกรุงมอสโกอย่างต่อเนื่อง

และคำตอบที่ ซูนัค ตอบแก่สังคมอังกฤษคือ

ผมถูกเลือกมาเพื่อรับใช้คนอังกฤษเท่านั้น ในส่วนภรรยาของผมไม่ใช่คนอังกฤษ และครอบครัวของเรา ไม่ได้มีความสัมพันธ์พิเศษใดๆ กับรัฐบาลรัสเซีย

ในขณะที่บริษัทไอที เลือกที่จะตอบว่า สาขาที่กรุงมอสโก เป็นเพียงสาขาเล็กๆ เท่านั้น และทำงานเพียงแค่คอยดูแลคนทั่วโลก

ครอบครัวของนายกฯ อังกฤษคนนี้ ติด 1 ใน 250 ครอบครัวที่รวยที่สุดในอังกฤษ เมื่อเอาทรัพย์สินของทั้ง 2 มารวมกัน อาจมีมูลค่าราว 730 ล้านปอนด์ และรวมกับอสังหาริมทรัพย์อีกมากมาย เมื่อรวมกันอาจจะมากถึง 800 ล้านปอนด์ ซึ่งมากกว่าทรัพย์สินของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีคามิลลารวมกันเสียอีก

การเป็นคนรวยไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่การเป็นครอบครัวที่ร่ำรวยของผู้นำ ในขณะที่ประเทศกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตทางเศรษฐกิจ อาจจะถูกมองถึงความเหลื่อมล้ำที่จะตามมา และเกิดเป็นคำถามขึ้นอีกมากมายว่า

คนรวยล้นฟ้า จะเข้าใจและแก้ไขปัญหาของคนจนได้อย่างไร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง