ทนาย "ทักษิณ" เผย "ชวน" ไม่รับทราบข้อกล่าวหาคดีหมิ่นประมาทแก้ปัญหาใต้

การเมือง
27 ต.ค. 65
14:44
1,446
Logo Thai PBS
ทนาย "ทักษิณ" เผย "ชวน" ไม่รับทราบข้อกล่าวหาคดีหมิ่นประมาทแก้ปัญหาใต้
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ทนาย "ทักษิณ" เผย "ชวน" ถูกหมายเรียก 4 ครั้งไม่ยอมมารับทราบข้อกล่าวหา ติงเป็นผู้ต้องหาใช้สิทธิอะไรสั่ง ตร.-อัยการ แซะเลิกพูดเอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่น

วันนี้ ( 27 ต.ค.2565) นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวกรณีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ แถลงข่าวที่รัฐสภาหลังตกเป็นจำเลยในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องนายชวนในความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณานายทักษิณว่า ที่นายชวนแถลงว่า "รู้ว่าคดีจะขาดอายุความ จึงมอบหมายให้นายราเมศ ทนายความ ช่วยประสานตำรวจ และอัยการเพื่อให้ฟ้องคดี เพื่อมิให้คดีขาดอายุความ หากคดีขาดอายุความ องค์กรตำรวจและอัยการจะเสียหายได้ ตนยึดหลักในความเคารพกฎหมาย และทุกคนจะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน พร้อมสู้คดี" นั้น

ตนในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากนายทักษิณในการแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อเอาผิดกับนายชวนในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณานายทักษิณ ซึ่งคดีนี้ได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร มาตั้งแต่ปี 2555 นับถึงเวลานี้เป็นเวลาจะเกือบ 10 ปี

ต้องย้อนถามนายชวนว่าใครกันแน่ที่ทำให้คดีล่าช้า มาเป็นเวลา 10 ปี ขอถามอีกว่าได้ยึดหลักในความเคารพกฎหมาย และได้อยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน พร้อมสู้คดีจริงหรือไม่

นายนรวิชญ์ กล่าวต่อว่า ความจริงต้องให้ความเป็นธรรมกับองค์กรตำรวจและอัยการ เพราะนับแต่ตนในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจจากนายทักษิณในการแจ้งความร้องทุกข์คดีนี้แล้ว

ตนได้ติดตามคดีนี้มาโดยตลอด จึงได้ทราบว่าก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวน ได้มีหมายเรียกให้นายชวนมารับทราบข้อกล่าวหามาแล้วถึง 4 ครั้ง แต่นายชวนไม่ได้มารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกจนเป็นเหตุให้พนักงานสอบสวนขอศาลออกหมายจับ

การที่นายชวนไม่มารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกดังกล่าว จึงทำให้พนักงานสอบสวนไม่สามารถนำตัวนายชวนในฐานะผู้ต้องหา ส่งให้กับพนักงานอัยการ เป็นผลให้พนักงานอัยการไม่สามารถนำตัวนายชวนในฐานะจำเลยส่งฟ้องต่อศาลได้

จึงเป็นเหตุให้คดีล่าช้ามาถึงเกือบจะ 10 ปี ตนเป็นทนายความและทำคดีมาจะ 30 ปี ยังไม่เคยเห็นคดีใหนล่าช้าเท่าคดีนี้ ถ้าเป็นคดีชาวบ้านธรรมดา ๆ คดีคงจบไปนานแล้ว

นายนรวิชญ์ กล่าวอีกว่า ต้องถามนายชวนว่าเหตุใด นายชวนจึงไม่มารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกทั้ง 4 ครั้ง คงไม่ตอบนะ ว่าไม่ได้รับหมายเรียก อย่างนี้จะถือว่านายชวนได้ยึดหลักในความเคารพกฎหมาย และอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน และพร้อมสู้คดีตามที่พูดหรือไม่

การที่คดีล่าช้าเกือบจะถึง 10 ปี สาเหตุมาจากการที่นายชวนไม่มารับทราบข้อกล่าวหา ไม่ใช่องค์กรตำรวจหรืออัยการทำคดีล่าช้าใช่หรือไม่

นายนรวิชญ์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่นายชวนอ้างว่าเห็นว่าอีก 3 วันคดีจะขาดอายุความ จึงได้ขอให้ตำรวจและอัยการยื่นฟ้องตนต่อศาลนั้น ในส่วนนี้ตนก็มีคำถามว่านายชวนในฐานะผู้ต้องหาหรือจำเลย เอาอำนาจอะไรไปสั่งให้องค์กรตำรวจและอัยการฟ้องคดีนี้

ทั้งที่การพิจารณาของพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการ ในการจะสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องคดีในคดีใดๆ นั้น ต้องเป็นไปตามพยานหลักฐานและข้อกฎหมายเป็นสำคัญ ไม่ใช่ทำตามคำสั่งของใคร

ที่สำคัญต้องไม่ตามคำสั่งของผู้ต้องหาหรือจำเลย การที่นายชวนพูดเช่นนี้ ถือว่าองค์กรตำรวจและอัยการเสียหาย ทำให้ประชาชนสับสน องค์กรตำรวจ และอัยการต้องออกมาชี้แจงเรื่องนี้ให้กระจ่าง ท้ายนี้ฝากเป็นข้อคิดทุกท่านว่าอย่าพูดเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่ผู้อื่น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง