วานนี้ (30 ต.ค.2565) สำนักข่าว BBC รายงานว่าพนักงานของบริษัท Foxconn ซึ่งมีฐานการผลิตอยู่ในนครเจิ้งโจว และเป็นบริษัทผลิตชิ้นส่วนเพื่อประกอบโทรศัพท์มือถือ iPhone ราว 10 คน ได้ปีนข้ามกำแพงโรงงาน เนื่องจากไม่ต้องการถูกกักบริเวณภายในโรงงาน ตามนโยบายโควิดเป็นศูนย์ที่ทางการจีนใช้อยู่ ณ ขณะนี้ หลังจากที่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ภายในโรงงาน
Reuters รายงานเพิ่มเติมว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการรายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในนครเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน 167 คน ซึ่งเพิ่มขึ้น 97 คน จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้น โดยที่ประชากรในนครแห่งนี้มีราว 10 ล้านคน ส่วนหนึ่งกำลังถูกจำกัดบริเวณเนื่องจากการบังคับใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์
บริษัท Foxconn เป็นบริษัทที่ผลิตอะไหล่ชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือให้บริษัท Apple ในสหรัฐอเมริกา มีพนักงานหลายพันคน แต่เมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 ครั้งนี้ บริษัทไม่ได้แจ้งจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวของ BBC ในจีนรายงานว่า หลังจากเกิดการระบาดภายในโรงงานแล้ว พบว่ามีพนักงานหลายคนเลือกจะเดินเท้ากลับบ้านเกิดแทนการใช้ขนส่งสาธารณะ เพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายเชื้อสู่ผู้อื่น
ส่วน The Financial Times ระบุว่า พนักงานวัย 22 ปี คนหนึ่ง ให้ข้อมูลว่า
มันมีความวุ่นวายเกิดขึ้นในบริเวณที่พัก เขาและเพื่อนตัดสินใจปีนกำแพงรั้วของโรงงานเพื่อหนีออกจากที่พัก
นอกจากนั้น ภายในโรงงานมีการจำกัดบริเวณผู้ที่มีผลเป็นบวกให้อยู่รวมกัน และทำการตรวจเชื้อทุกวัน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ต.ค. Foxconn ได้ประกาศว่า จะปิดโรงอาหารในโรงงานและขอให้พนักงานทุกคนกินข้าวภายในห้องพักของตนเอง และรัฐบาลจีนเห็นชอบกับมาตรการที่ให้พนักงานทุกคนกินข้าวในห้องพัก เพื่อความปลอดภัยในสุขภาพและชีวิตของพนักงานทุกคน
แต่ในขณะเดียวกัน ตัวแทนบริษัทก็แจ้งว่า กระบวนการผลิตยังคงจะดำเนินการต่อไปตามปกติ
บริษัทยังแจ้งเพิ่มเติมว่า สำหรับพนักงานที่ไม่ต้องการอยู่ในโรงงาน ทางบริษัทได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐกำลังดำเนินการจัดหายานพาหนะเพื่อส่งพนักงานกลับบ้าน
การจัดการต่างๆนี้ เกิดขึ้นจากรัฐบาลจีนได้ให้อำนาจกระจายสู่แต่ละมณฑล เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ให้อยู่ในวงจำกัดมากที่สุด ทั้งในเรื่องการ การควบคุมโรค, การจำกัดสถานที่, การตรวจค้นโรค และการเดินทาง
แม้จะยังมีอีกหลายความเห็นที่ต้องการให้รัฐบาลจีนเลิกใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ภายในสิ้นปีนี้ แต่ความหวังก็ดูริบหรี่ เพราะในการประชุมสมัชชาฯ ครั้งที่ 20 ที่ผ่านมา ปธน. สี จิ้นผิง ก็ส่งสัญญาณอย่างชัดเจนแล้วว่า
การผ่อนปรนนโยบายนี้ คงยังไม่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ อย่างแน่นอน
ที่มา : BBC, Reuters, THE Financial Times