วันนี้ (2 พ.ย.2565) ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา คำร้องของสมาชิกวุฒิสภาที่ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 148 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบกับมาตรา 132 ว่าร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 3 ,มาตรา 4 ,มาตรา 5, มาตรา 6 ,มาตรา 7 ,มาตรา 8 ,มาตรา 9 ,มาตรา 10
มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 45 , มาตรา 83 , มาตรา 86, มาตรา 90 และมาตรา 258 ก. ด้านการเมือง(2) หรือไม่ และตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่
ศาลรัฐธรรมนูญ อภิปราย และนำไปสู่การวินิจฉัยแล้วเห็นว่า คดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายและมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวน โดยกำหนดนัดแถลงด้วยวาจาปรึกษาหารือและลงมติในวันพุธที่ 23 พ.ย.นี้ เวลา 09.30 น.
สำหรับการยื่นตีความร่างกฏหมายว่าด้วยพรรคการเมือง พล.อ.สมเจตน์บุญถนอม ส.ว.เป็นผู้ยื่นคำร้อง โดยประเด็นที่ขอให้ตีความกรณีที่ร่างได้แก้ไขเกี่ยวกับอัตราค่าธรรมเนียมและค่าบำรุงพรรคการเมืองที่เรียกเก็บจากสมาชิก โดยลดจากรายปีปีละ 200 บาทเป็น 20 บาท และแบบตลอดชีพจาก 2,000 บาท เป็น 200 บาทขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ออกแบบให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันการเมืองและกำหนดให้เก็บค่าบำรุงพรรคซึ่งเป็นความสำคัญการมีส่วนร่วมกับพรรคการเมือง
นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องของการลดคุณสมบัติของผู้ที่จะมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองซึ่งเดิมกำหนดความเข้มข้นห้ามบุคคลที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุกเข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคแต่ร่างฉบับดังกล่าวแก้ไขให้ผู้ที่มีมลทินสามารถสมัครเป็นสมาชิกพรรคได้ถือว่าเป็นการป้องกันผู้ที่มีมลทินเข้าสู่การเมืองขัดต่อเจตนารมณ์ที่รัฐธรรมนูญกำหนด
รวมถึงประเด็นการแก้ไขเนื้อหาเกี่ยวกับการทำไพรม์มารี่โหวตที่เดิมกำหนดให้สมาชิกพรรค มีส่วนร่วมในการเลือกตัวแทนไปเป็นผู้สมัคร ส.ส.แบบเขตเลือกตั้งซึ่งมีการแก้ไขให้คณะกรรมการสรรหาของพรรคเป็นผู้เลือกตัวแทนไปดำเนินการแทน