จับแก๊งหวยทิพย์ หลอกผู้เสียหายลงทุน สูญกว่า 100 ล้านบาท

อาชญากรรม
4 พ.ย. 65
15:23
519
Logo Thai PBS
จับแก๊งหวยทิพย์ หลอกผู้เสียหายลงทุน สูญกว่า 100 ล้านบาท
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กองปราบฯ จับ 3 ผู้ต้องหา อ้างเป็นยี่ปั๊วขายลอตเตอรีสนิทนายทหารชั้นผู้ใหญ่ หลวกผู้เสียหายลงทุน เสียหายกว่า 100 ล้านบาท พร้อมยึดของกลางนับ 10 ล้านบาท

วันนี้ (4 พ.ย.2565) ตำรวจกองบังคับการปราบปราม จับ ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกง กรณีหลอกประชาชนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยติดตามจับที่ได้ที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งมีผู้ต้องหา 3 คน ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง และร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐาน ฟอกเงิน และมีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน”

พร้อมตรวจยึดของกลาง สมุดบัญชีธนาคาร โทรศัพท์มือถือ และของกลางอื่นๆ รวมจำนวนหลายรายการ รวมถึงตรวจยึดทรัพย์สินที่น่าเชื่อว่าได้จากการประทำความผิด อาทิ โฉนดที่ดิน ยานพาหนะ ของขบวนการดังกล่าวได้จำนวนหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนการสอบสวนเบื้องต้น ทั้ง 3 คน ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา

ตำรวจเปิดเผย พฤติการณ์ เมื่อประมาณปลายปี พ.ศ.2561 ผู้เสียหายได้รู้จักกับนายรัฐกรณ์ หรือ อาร์ม สร้างความน่าเชื่อถืออ้างว่า ตัวเองเป็นยี่ปั๊วตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ในพื้นที่ จ.เลย และพื้นที่ใกล้เคียง มีโควตารับลอตเตอรี จำนวน 5,000 เล่ม โดยรู้จักกับข้าราชการนายทหารชั้นผู้ใหญ่ให้การสนับสนุน

จึงชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุน โดยอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนจริง โดยจะให้ผลตอบแทนกำไร ใบละ 1-5 บาท ต่องวด ของจำนวนเงินที่ลงทุนไปในแต่งวด ซึ่งแต่ละงวดจะได้กำไรไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับต้นทุนสลากที่ซื้อได้จากกองสลาก ต่อมานายรัฐกรณ์ ได้แนะนำผู้เสียหายให้รู้จักกับ น.ส.รพีพรรณ (น้องสาวนายรัฐกรณ์) และ น.ส.รัชฎาภรณ์ (เพื่อนนายรัฐกรณ์) ร่วมกันใช้กลอุบายหลอกลวงผู้เสียหายให้ร่วมลงทุนกับนายรัฐกรณ์ จนผู้เสียหายหลงเชื่อและเข้าร่วมลงทุนด้วย

การลงทุนช่วงแรกมีการจ่ายเงินตอบแทนจริง ผู้เสียหายจึงได้ร่วมลงทุนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลกับกลุ่มผู้ต้องหาอีกหลายครั้ง

กลุ่มผู้ต้องหาได้นำสัญญาการซื้อขายสลากกับเป็นยี่ปั๊วรายใหญ่มาให้ผู้เสียหายดู เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือมากขึ้น จึงได้เพิ่มเงินลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งช่วงกลางเดือน กุมภาพันธ์ 2565 ผู้เสียหายต้องการนำเงินไปลงทุนทำธุรกิจส่วนตัว จึงได้แจ้งขอเงินลงทุนคืนจากกลุ่มผู้ต้องหาคืน

แต่เมื่อถึงวันกำหนด ก็ไม่ยอมคืนเงินให้ เมื่อติดตามทวงถามก็บ่ายเบี่ยงเรื่อยมา สืบทราบภายหลังว่ากลุ่มผู้ต้องหาไม่ได้เป็นยี่ปั๊วแต่อย่างใด และไม่มีโควตาจำนวนมากตามที่กล่าวอ้าง ผู้เสียหายเองก็ไม่เคยเห็นสลากกินแบ่งรัฐบาล และไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดมารับซื้อ หรือมีหน้าร้านจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลแต่อย่างใด จึงเชื่อว่าถูกหลอก เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย จึงได้เข้ามาร้องทุกข์ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ที่ กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม

พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวนทำการสืบสวนขยายผล จนทราบว่าขบวนการนี้มีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยเริ่มตั้งแต่บุคคลที่มีหน้าที่ชักชวน สร้างความน่าเชื่อถือ และร่วมกันหลอกลวงจนผู้เสียหายหลงเชื่อ โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีที่นายรัฐกรณ์ เตรียมไว้ ก่อนที่จะมีการโอนเงินต่อให้กับคนในขบวนการ เมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินประวัติของผู้ร่วมขบวนการ พบว่ามีเงินหมุนเวียนกว่า 1,900 ล้านบาท เบื้องต้นผู้เสียหาย 2 คน จึงได้รับความเสียหาย รวมเป็นเงินจำนวน 126,811,999 บาท

นอกจากกลุ่มผู้ต้องหาได้ร่วมกันกระทำความผิดกับผู้เสียหาย 2 คนนี้แล้ว ยังกระทำการในลักษณะเช่นเดียวกันนี้กับผู้เสียหายรายอื่นอีกหลายคนหลายครั้ง และกระทำซ้ำๆ อย่างนี้เรื่อยมา อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ซึ่งอยู่ในระหว่างการสืบสวนขยายผล เพิ่มเติม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง