ตำรวจยังคงดำเนินการต่อเนื่อง กรณีสืบสวนสอบสวนและขยายผลกลุ่มนักธุรกิจจีนสีเทา โดยเมื่อวันที่ 29 พ.ย.2565 ตำรวจคอมมานโด ปฏิบัติการบุกเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายกลุ่มทุนจีน ต้องสงสัยทำธุรกิจผิดกฎหมาย รวม 7 เป้าหมาย
ทำการอายัดบ้านหรู คอนโดหรู รถยนต์ และทรัพย์สินอื่นๆอีกหลายรายการ รวมมูลค่าหลายร้อยล้านบาท หลังขยายผลจากรถยนต์หรูที่อายัดจาก "ผับจินหลิง" หลังเข้าตรวจค้นผับเมื่อปลายเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา พบกลุ่มนี้เป็นผู้ซื้อบริการรับ-ส่ง นักเที่ยวชาวจีน
วันที่ 29 พ.ย.2565 ตำรวจคอมมานโด บุกเข้าตรวจค้นบ้านพัก ภายในโครงการบ้านหรู ย่านลาซาล ซึ่งเป็น 1 ใน 7 เป้าหมายต้องสงสัย ว่าเป็นกลุ่มทุนชาวจีนที่ทำธุรกิจผิดกฎหมายในไทยอีกกลุ่มหนึ่ง
ผลการตรวค้นพบว่า พื้นที่เป้าหมายมีบ้านพักหรู 3 หลังคาติดกัน โดยผู้ซื้อคือกลุ่มเครือข่ายเดียวกัน เข้าซื้อช่วงปี 2563 การตรวจค้นไม่พบเจ้าของบ้าน มีเพียงพนักงานดูแลบ้าน ตำรวจจึงแจ้งอายัดบ้านทั้ง 3 หลัง ขณะที่ด้านนอกพบรถยนต์เป็นรถตู้ราคาแพงจอดอยู่รวม 10 คัน ตำรวจอายัดเอาไว้ตรวจสอบทั้งหมด เบื้องต้น การซื้อขายรถนั้นซื้อในนามบริษัทแห่งหนึ่ง ที่มีชื่อคนไทยถือหุ้นมากกว่าคนจีน แต่น่าเชื่อว่า คนไทยที่ถือหุ้นจะเป็นนอมินี
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าการตรวจค้นครั้งนี้้ เป็นการสืบสวนขยายผลจากรถยนต์หรูที่อายัดได้จากหน้าผับจินหลิงในคืนวันบุกตรวจค้นผับ ช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งพบว่ามีกลุ่มนักเที่ยวชาวจีนใช้บริการเช่ารถยนต์พร้อมคนขับคอยรับส่ง และนักเที่ยวส่วนใหญ่ก็เช่าพักในคอนโดหรือบ้านที่นักธุรกิจชาวจีนกลุ่มนี้จัดรองรับ โดยเฉพาะชาวจีนที่มีฐานะทางการเงิน
นอกจากนี้ยังพบ มักมีการแนะนำสถานที่เที่ยวเฉพาะกลุ่มคนจีน ที่มีบริการครบวงจร ทั้งดื่มแอลกอฮอล์ การพนันและยาเสพติด เช่น ผับจินหลิง ซึ่งหลังจากนี้จะสืบสวนขยายผลว่า กลุ่มนี้มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องทางการเงิน ลักษณะร่วมลงธุรกิจกับนายตู้ห่าวด้วยหรือไม่
ขณะที่อีกเป้าหมาย เป็นคอนโดหรู เพนต์เฮาส์ ย่านเจริญนคร มูลค่าห้องมากกว่า 100 ล้านบาท ภายในพบเงินสด ทั้งธนบัตรไทยและสกุลเงินหยวน และกระเป๋าแบรนด์เนมหลายรายการ รวมหลายล้านบาท
และยังพบบ้านหรูอีกแห่งที่ย่านราชพฤกษ์ ตำรวจเข้าตรวจค้น พบในบ้านมีโต๊ะไพ่มาจองหรือ ไพ่นกกระจอก 1 โต๊ะ มีเจ้าบ้านแสดงตัวและให้ความยินยอมตรวจค้น ซึ่งภายหลังตรวจค้นตำรวจได้แจ้งอายัดทรัพย์ทั้งหมดไว้ตรวจสอบ ตามขั้นตอนในระหว่างการสืบสวนสอบสวนทางคดี
แต่ระหว่างที่ยังมีปฏิบัติการต่อเนื่องในวันนี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีต ส.ส. ที่ก่อนหน้านี้ประกาศว่าหมดหน้าที่ในการเปิดโปงเครือข่ายทุนสีเทาไปแล้วนั้น ก็ยังมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง เพราะมองว่าการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความล่าช้า จนเครือข่ายหลายคนหนีออกนอกประเทศไปแล้ว
ช่วงเช้าที่ผ่านมา ชูวิทย์ได้โพสต์ถึงชายชาวจีนคนหนึ่งที่ชื่อ หลินหลง ซึ่งเป็นคนที่ทำบ่อน ขายยาเสพติด รวมทั้งใส่ชุดทหารยศพันเอก หลอกคนจีนด้วยกันว่า ที่เมืองไทยมีเงินเคลียร์ได้หมด
พร้อมระบุว่า ชายคนนี้หนีออกจากไทยไปแล้ว เพราะการทำงานที่ล่าช้าของหน่วยงานรัฐ ที่ทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางจีนเทาในอาเซียน พร้อมจะเดินหน้าเปิดโปงข้อมูลทุนจีนสีเทาต่อไป
อ่านข่าวเพิ่ม :
ป.ป.ส.ยึดทรัพย์ "ตู้ห่าว" 400 ล้านบาท-ปัดไม่สนิท "เฉลิมเกียรติ"
อายัด "บ้าน-รถยนต์หรู" กลุ่มทุนจีนสีเทา
"ชูวิทย์" เปิดหลักฐานชื่อ "ตู้ห่าว" ถือหุ้นใหญ่บริษัทเครื่องบินเจ็ทฯ