"สุขุม" วิเคราะห์ “เพื่อไทย” ตั้งหลักเร็วชูนโยบายโดนใจคน ทำได้หรือไม่ เร็วไปที่จะตอบ

การเมือง
8 ธ.ค. 65
16:23
692
Logo Thai PBS
"สุขุม" วิเคราะห์ “เพื่อไทย” ตั้งหลักเร็วชูนโยบายโดนใจคน ทำได้หรือไม่ เร็วไปที่จะตอบ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"สุขุม" วิเคราะห์ “เพื่อไทย” ตั้งหลักเร็วชูนโยบายโดนใจคนส่วนใหญ่ ทำได้หรือไม่ เร็วไปที่จะตอบ ส่วนพรรคการเมืองอื่นไม่ขยับ บอกไม่ได้ ใครอยู่-ใครไป-ใครนายกฯ มั่นใจทุกสนามขาดกระแส-กระสุนไม่ได้

สนามรบทางการเมือง แม้จะยังไม่เปิดหน้าชกกันเต็มที่ และยังต้องรอพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีส่งสัญญาณยุบสภา คาดว่าไม่เกิน มี.ค.2566 คงชัดเจน ทุกพรรคการเมืองจึงอยู่ระหว่างการวางแผนปรับกลยุทธ์ วางตัวผู้สมัคร ส.ส.ทั้งระบบบัญชีรายชื่อและ ส.ส.เขต

และการเปิดนโยบายเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยโดย น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทยและหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย รีเบรนด์พรรค ”คิดใหญ่ ทำเป็น”

ด้วยข้อเสนอปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 600 บาท และผู้ที่จบปริญญาตรีจะได้รับเงินเดือน 25,000 บาท แม้จะเป็นการชิงความได้เปรียบหากเทียบกับพรรคการเมืองอื่นๆ ที่ยังไม่ขยับตัว และมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์สนั่นเมือง

ดร.สุขุม นวลสกุล นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ วิเคราะห์ว่า แคมเปญดังกล่าวของพรรคเพื่อไทย เป็นสิ่งใหม่ที่ท้าทายให้คนต้องคิดตาม และถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง และน่าจะเป็นบวกมากกว่าลบ

เพราะนโยบายพรรคการเมือง หากออกมาแล้วไม่มีใครพูดถึง ไม่โดนใจ มันอาจจะแป๊กไม่น่าสนใจและไม่ถูกจดจำ ส่วนตัวยอมรับว่า เป็นคนรุ่นเก่าอาจไม่เข้าใจในหลายเรื่อง แต่ก็ต้องพยายามติดตาม และพรรคเพื่อไทยมีความพยายามที่จะออกนโยบายเพื่อให้ถูกใจคนส่วนใหญ่

ส่วนจะทำได้หรือไม่ ยังไม่รู้ ตอบไม่ได้ เพราะยังไม่เกิดขึ้น แต่ทำให้คนรู้สึกว่า มีความหวัง และมันท้าทาย ซึ่งเขาก็ต้องทำให้ชัด

ดร.สุขุม ตั้งข้อสังเกตว่า หากเปรียบเทียบกับนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆในขณะต้องถือว่า เพื่อไทยตั้งหลักได้เร็วมากกว่าพรรคอื่นๆ เนื่องจากเป็นฝ่ายค้านมานาน ขณะที่พรรคอื่นๆยังอยู่ระหว่างการปรับตัวและยังมีความไม่ลงตัวในหลายๆเรื่อง

อย่างไรก็ตาม แม้พรรคการเมืองหลายพรรคจะพยายามชูแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี โดย พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดตัว นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ในฐานะกุนซือด้านเศรษฐกิจพรรค

หาก ดร.สุขุม มองว่า นายมิ่งขวัญ อาจอยู่ได้ไม่นาน หากดูจากบรรยากาศและความกระอักกระอ่วนของคนพรรคในวันเปิดตัว เนื่องจากมิ่งขวัญอาจพูดอะไรหลายอย่างขณะที่พรรคพลังประชารัฐยังไม่อยากให้ไปไกลถึงขนาดนั้น

ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติก็ยังต้องรอดูการตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์ จะอย่างไร และหากเอาจริง พล.อ.ประยุทธคงลงต้องมือหนักกว่านี้ ไม่ใช่แค่เที่ยวเปรยๆ แล้วไม่ขยับตัวทำอะไร ไม่เช่นนั้น ก็คงไม่ไปถึงฝั่งฝันแน่นอน

ด้านพรรคเพื่อไทย แม้ยังไม่ชัดเจนว่าจะดัน นายเศรษฐา ทวีสิน นักธุรกิจชื่อดัง ที่เพิ่งเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยเป็นแคนดิเดตนายกหรือไม่ แต่นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ มองว่า เพื่อไทยยังมีที่ว่างพอ และไม่เสียหายหากเขาจะถูกเสนอเชื่อ

ที่สำคัญ นายเศรษฐา ยังใหม่ในทางการเมือง และเป็นที่ยอมรับในแวดวงธุรกิจ หากเปรียบเทียบกับคนเก่าๆที่อยู่ในสนามรบเดิม และไม่มีอะไรใหม่ที่น่าสนใจ

ขณะพรรคก้าวไกล นโยบายบายพรรคยังไม่ชัดเจน เน้นเรื่องกระแสมากกว่ากระสุน จึงต้องจับตาดู

เช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าอาจมีลุ้น แต่ไม่ได้ลุ้นในฐานะที่เป็นพรรคหลัก และเชื่อว่ายังไม่น่าจะสูญพันธุ์

ดร.สุขุม บอกว่า ขณะนี้ยังเร็วไปที่จะเวิคราะห์ว่า สนามการสู้รบระหว่างพรรคการเมืองต่างๆ ใครจะอยู่หรือไปแต่กระแสและกระสุน สองสิ่งนี้ยังจำเป็น ไม่ใช่สิ่งจำเป็นธรรมดาแต่จำเป็นมาก

บางพรรคอาจมองว่า กระสุนเป็นเรื่องชี้ขาด ซึ่งแล้วแต่พื้นที่ว่าตรงไหนใครจะใช้กระแสหรือกระสุน บางพื้นที่ที่มีความเจริญกระแสอาจจะดีกว่า แต่ในกรณีที่บางพื้นที่ยังเป็นระบบอุปถัมภ์สังคมดั้งเดิมกระสุนก็ต้องดีกว่า

ในทางการเมือง กระสุน ไม่ใช่เรื่องแค่นโยบาย แต่ยังต้องมองเรื่องระบบสังคมความเป็นเครือญาติ ระบบอุป ถัมป์ค้ำชู บุญคุณตรงนี้ก็ถือเป็นกระสุนทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าต้องมานั่งแจกเงินกันทั้งหมด นี่แค่เป็นเสี้ยวหนึ่งของระบบอุปถัมป์ในสังคมไทย แต่ยังหมายถึงอย่างอื่นที่ไม่ใช่ทฤษฎีเลือกตั้งด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง