กระแสข่าวสูตรการเมือง "นายกฯ คนละครึ่ง" โดยให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ครึ่งหนึ่งในช่วง 2 ปีแรก และส่งไม้ต่ออีก 2 ปีหลังให้กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล แต่ท่าทีของนายอนุทิน เมื่อวานนี้ชัดเจนว่า ไม่ขอเป็นทายาทรับไม้ต่อจากใคร โดยย้ำว่า จะเป็นนายกฯ เมื่อมีความพร้อมที่จะเป็นด้วยตัวเอง ไม่ใช่ให้ใครมาตั้ง
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังไม่แสดงความชัดเจน เมื่อถูกถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยอมรับว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐแล้ว โดยระบุว่า ยังทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐอยู่ และขอฟังเสียงประชาชนก่อนจะตัดสินใจทางการเมือง
ระหว่างที่รอความชัดเจนจากนายกฯ มีแหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า คำตอบมีแน่ แต่ขอเป็นหลังกลับจากปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศก่อน โดยเฉพาะการประกาศร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ เบื้องต้น อาจจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ตามคำเชิญของหัวหน้าพรรค โดยไม่สมัครเป็นสมาชิกพรรค
ขณะที่การเลือกตั้งก็ขยับเข้ามาทุกที เพราะกติกาการเลือกตั้งก็ผ่านการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ล่าสุด มีรายงานว่า ก่อนปีใหม่ พล.อ. ประยุทธ์ เตรียมนำร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับ ขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย การทำหน้าที่ของสภาก็ใกล้จะครบวาระในเดือน มี.ค.2566 แต่ดูเหมือนว่า "สภาล่ม" จะกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับสภาชุดนี้