แนวคิด "ธนาคารที่ดิน" บนสวนปาล์มน้ำมันหมดสัมปทาน

เศรษฐกิจ
10 ธ.ค. 65
14:07
376
Logo Thai PBS
แนวคิด "ธนาคารที่ดิน" บนสวนปาล์มน้ำมันหมดสัมปทาน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ สอดรับแนวคิดกรมป่าไม้ ในการล้มผลอาสินปรับพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันหมดสัมปทาน กว่า 78,000 ไร่ ของ จ.กระบี่ ให้เป็นศูนย์ พร้อมจัดตั้งธนาคารที่ดินให้ชาวบ้านกู้ระยะยาวแทนการให้ขาด ต่างกันที่กรมป่าไม้ต้องการปลูกป่าทดแทน

ในปี 2566 สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ จะได้รับการจัดสรรงบประมาณจากกรมป่าไม้ กว่า 360 ล้านบาท ตั้งเป้าล้มสวนปาล์มน้ำมัน กว่า 5,500 ไร่ก่อนเพื่อปลูกป่าทดแทน จากพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันหมดสัมปทานกว่า 78,000 ไร่ ส่วนที่เหลือต้องรองบประมาณในปีถัดไป

 

นายวศิน สิริเกียรติกุล ที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน การมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ที่ติดตามปัญหาการเรียกร้องที่ดินของ จ.กระบี่ มาเป็นเวลานาน เสนอแนวคิดในการจัดตั้งธนาคารที่ดินมีหน้าที่รวบรวมที่ดินสวนปาล์มน้ำมันหมดสัมปทานทุกแปลง จากนั้นให้ชาวบ้านรวมกลุ่มมายื่นมากู้แทนการให้ขาด แต่ให้ระยะเวลาในการกู้ระยะยาวตั้งแต่ 60 ปี ไปจนถึง 90 ปี

นายวศิน สิริเกียรติกุล

นายวศิน สิริเกียรติกุล

นายวศิน สิริเกียรติกุล

 

ส่วนผู้ที่กู้ต้องมีแผนที่ชัดเจนว่าจะทำที่ดินไปทำอะไรหรือปลูกอะไร เพื่อให้เหมาะกับบริบทของพื้นที่ เพราะหากปลูกพืชซ้ำซ้อนกัน ในอนาคตอาจนำไปสู่ปัญหาผลผลิตราคาตกต่ำและที่สำคัญต้องใช้ยาแรง ปรับพื้นที่ให้เป็นศูนย์ด้วยการทำลายผลอาสินทั้งหมด เพื่อไม่ให้เป็นข้ออ้างว่าที่สวนปาล์มน้ำมันแปลงนั้นยังเก็บเกี่ยวผลผลิตได้จนนำไปสู่ความขัดแย้งเหมือนที่ผ่านมา



ที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน การมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร สภาผู้แทนราษฎร ยังจำแนกผู้เรียกร้องที่ดินทำกิน ออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่ไม่เคยเข้าถึงสวัสดิการของรัฐ หรือไม่เคยครอบครองที่ดินมาก่อน และกลุ่มที่เคยมีที่ดินแต่ต้องนำไปขายให้นายทุน เพื่อใช้จ่ายเมื่อครอบครัวขาดสภาพคล่องแนวคิดธนาคารที่ดิน จึงเป็นทางออกในการเก็บเกี่ยวรายได้จากที่ดินที่กู้ไปเพื่อเก็บเงินไว้ซื้อที่ดินเป็นของตัวเอง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง