"Eco print" รักษ์โลกบนผืนผ้า เน้นตลาด Digital สร้างรายได้ยุคโควิด

ไลฟ์สไตล์
11 ธ.ค. 65
14:10
15,924
Logo Thai PBS
"Eco print" รักษ์โลกบนผืนผ้า เน้นตลาด Digital สร้างรายได้ยุคโควิด
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
Eco print การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์บนผืนผ้า จากวัสดุธรรมชาติ ก่อให้เกิดสีและลวดลายที่งดงาม เจาะกลุ่มลูกค้ารักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อม ไม่ต้องมีหน้าร้าน เน้นช่องทาง Digital Marketing สร้างรายได้ในยุคโควิด-19

ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดอย่างหนัก ภาวะเศรษฐกิจซบเซา ไม่มีใครอยากเริ่มธุรกิจใหม่ แต่ Auntie Pree art and craft communities กับธุรกิจ Eco print การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์บนผืนผ้า โดยใช้วัสดุจากธรรมชาติ กลับคิดต่าง มองเห็นช่องทาง Digital Marketing ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มทุกคน โดยไม่ต้องมีหน้าร้าน แค่ใช้ความรู้ที่มีกับวัตถุดิบธรรมชาติรอบบ้าน

Eco print คืออะไร

Eco print การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ผ้าที่ใช้วัสดุจากธรรมชาติ ทำให้เกิดสีและลวดลาย เป็นการพิมพ์ผ้า ด้วยใบไม้ ดอกไม้จากธรรมชาติ ถ่ายโอนสีและโครงสร้างจากใบไม้สู่ผ้าที่ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติ Eco print จะมีความแตกต่างการทำผ้ามัดย้อม และผ้าย้อมสีธรรมชาติ ด้วยกระบวนการ โดย Eco print จะมีความซับซ้อน ตั้งแต่การเตรียมผ้า

จุดเริ่มต้นของ Eco print

น.ส.ชนาธินาถ ไชยภู หรือ อาจารย์โจ อายุ 36 ปี หนึ่งในเจ้าของแบรนด์ Auntie Pree art and craft communities ที่ดำเนินกิจการ Eco print ซึ่งทำงานประจำเป็นอาจารย์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เปิดเผยกับไทยพีบีเอสออนไลน์ ว่า เก็บเกี่ยวประสบการณ์เกี่ยวกับการทำสีธรรมชาติมา 10 ปีแล้ว และในช่วงที่โควิด-19 ระบาด จ.ภูเก็ต ได้มีโครงการฝึกอบรมพัฒนาอาชีพ เลยชวน "ป้าปรี" หนึ่งในหุ้นส่วนไปเข้าร่วม เมื่ออบรมเสร็จจึงตัดสินใจเริ่มต้นธุรกิจ จนทำให้เกิดอาชีพใหม่อีกหนึ่งอาชีพสำหรับอาจารย์โจ

Eco print รักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อม

อาจารย์โจ เล่าว่า เนื่องจากโควิด-19 ระบาด ทำให้พฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนเปลี่ยนไป ออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น อยู่กับบ้านมากขึ้น ทำให้ความคิด จินตนาการที่ตัวบุคคลนั้นสร้างขึ้นมาเองโดยที่ไม่ได้ออกไปข้างนอก มันเลยกลายเป็นว่าอะไรก็แล้วแต่ที่มาจากความเป็นธรรมชาติ เป็นสิ่งที่มนุษย์ต้องการ โหยหาธรรมชาติ เลยส่งผลต่อการใช้ชีวิตของคน

นำจุดนี้มาเล่าเรื่องให้มีความน่าสนใจ ซึ่งใช้เวลาในการวอร์มเพจอยู่ประมาณสองเดือน เล่าเรื่องให้เห็นถึงความเป็นธรรมชาติ

ใบไม้ ดอกไม้ วัตถุดิบสำคัญ Eco print

ใบไม้ และ ดอกไม้ ช่วงเวลาในการเก็บเช่น เช้า เที่ยง เย็น หรือแม้กระทั่งฤดูที่แตกต่างกัน อายุของใบไม้ ดอกไม้ ก็ล้วนส่งผลต่อต่อสี ซึ่งอาจารย์โจมองว่าเป็นเสน่ห์ที่ควบคุมไม่ได้ มันคือธรรมชาติจริงๆ ซึ่งที่ใช้อยู่มีมากกว่า 20 ชนิด โดยเก็บมาจากริมรั้วบ้าน อย่างเช่น

  • ใบสัก จะชมพู สีแดง เหลือง ส้ม
  • ใบยูคาลิปตัส ให้สีเหลือง โทนเขียว เขียวแก่
  • ใบสบู่เลือด ให้สีเขียว เหลือง
  • ใบซิลเวอร์โอ๊ค จะให้สีเขียว เหลือง
  • ใบละหุ่ง ให้สีเหลือง สีเขียวแก่
  • ใบตะขบ ให้โทนสีเหลือง สีเขียวอ่อน
  • ใบแคนา ให้สีเขียว เขียวนีออน
  • ใบสาบเสือ ให้สีเขียว
  • ใบเพกา ให้สีเหลือง ส้ม น้ำตาล
  • ดอกดาวกระจาย ดอกดาวเรือง ให้โทนสีส้ม
  • ดอกพวงชมพู โทนสีส้ม สีน้ำตาล
แต่ทั้งนี้ไม่ใช่จะใช้ใบไม้ หรือดอกไม้อะไรก็ได้ ต้องผ่านการทดลอง และยังมีองค์ประกอบหลายอย่างในกระบวนการทำ

เสน่ห์ของ Eco print

ในต่างประเทศธุรกิจ Eco print เริ่มมานานแล้ว แต่สิ่งที่ที่เป็นข้อแตกต่างกัน คือวัตถุดิบทางธรรมชาติ ต้นไม้ ใบไม้ ไม่เหมือนกัน ทำให้ต่างชาติสนใจ

ผ้าแต่ละผืนไม่สามารถทำซ้ำลายเดิมได้อีกแล้ว สีใบไม้แต่ละช่วงจะควบคุมไม่ได้ เพราะคือธรรมชาติ เป็นความยูนีค หรือความเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ถ้าได้ผืนนี้ไปแล้วก็จะมีแค่ผืนนี้ผืนเดียวในโลก

เน้นความหลากหลายของผลิตภัณฑ์

ผลิตภัณฑ์จะเน้นใส่ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผ้าชิ้น ผ้าพันคอ เสื้อผ้า พยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ผ้าชิ้นที่สามารถนำไปนุ่ง คลุมโต๊ะ ตลอดจนนำไปตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าต่างๆ และขยายมาเป็นเสื้อผ้าที่เหมาะกับเมืองร้อน ถุงเท้า กระเป๋า และกำลังจะขยายไปสู่ของใช้ในบ้าน อย่างเช่น ปลอกหมอน napkin

กลุ่มลูกค้า Eco print

ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ที่มีกำลังซื้อ ต่างชาติ 60% สำหรับคนไทย 40% เป็นกลุ่มคนทำงาน ไปจนถึงวัยเกษียณ แต่ให้ความสนใจน้อยกว่าต่างชาติอาจเนื่องจากคนไทยคุ้นชินกับธรรมชาติ ต้นไม้ ดอกไม้

ในส่วนของกลุ่มวัยรุ่นนิยมระดับหนึ่ง ส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อเชิ้ต เสื้อครอป beachwear หรือ ชุดสำหรับใส่เดินชายหาด

ราคาสินค้า

อาจารย์โจ กล่าวว่า ทุกชิ้นเป็นงานแฮนด์เมด ทุกชิ้นคุณค่าจะอยู่ที่ความเป็นเอกลักษณ์ ที่ไม่สามารถทำซ้ำได้อีก ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 280 – 4,000

ต้องดูต้นทุนแต่ละชิ้น และขึ้นอยู่กับวัตถุดิบตั้งต้นด้วย อย่างเช่นไหมจะสั่งตรงจากชุมชนนครราชสีมา ซึ่งจะทำให้มั่นใจได้ว่าจะได้สินค้าที่มีคุณภาพ ซึ่งจะทำให้เราใช้วัตถุดิบตั้งต้นที่มีคุณภาพด้วย เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสว่าเป็นงานยูนีคตั้งแต่ต้น

ช่องทางการตลาด

ช่วงเริ่มต้นของการดำเนินธุรกิจ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ใช้ Digital Marketing ในการทำการตลาด ไม่มีหน้าร้าน ซึ่งจะไม่มีการโปรโมท โดยอาจารย์โจให้เหตุผลว่า เพราะต้องการรู้กลุ่มลูกค้าของธุรกิจที่แท้จริง

เมื่อหลังโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย มีโอกาสขายสินค้าที่ตลาดคนเดินหลาดใหญ่ ซึ่งทำให้คนรู้จักมากขึ้น

ลวดลายยอดฮิต

ลายใบสัก ให้โทนสีชมพู เข้มอ่อนแตกต่างกัน จะเห็นลวดลายที่ชัดเจน ลายที่ขายดีจะเป็นลายที่เอาใบสักหลายๆ ช่วงอายุมาทับซ้อนกัน จะให้โทนสีที่เป็นเลเยอร์ มีทั้งอ่อน เข้ม และก็มีลวดลายเส้นใบชัดเจน

ส่วนลายดอกดาวกระจาย ส่วนใหญ่ลูกค้าชาวญี่ปุ่นจะชอบมาก นิยมซื้อผ้าชิ้นไปตัดชุด สำหรับลูกค้าโซนยุโรป จะชอบลวดลายที่มีความดาร์ก สีเข้ม คนไทยเองจะชอบลวดลายที่สีสันสดใส หรือ บางคนก็ชอบโทนเข้ม

งานแต่ละชิ้นขึ้นอยู่กับการวางแพทเทิร์นลวดลายจะส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า

โอกาสธุรกิจ Eco print

อาจารย์โจ บอกว่า มองเห็นช่องทางในการส่งออก แต่ขณะนี้กำลังศึกษาว่าจะทำอย่างไรให้สินค้าของเราไปถึงประเทศที่ไม่มีใบไม้อย่างประเทศไทยได้

ยังไม่หยุดพัฒนา ยังอยากพัฒนา อยากผลักดันให้ใบไม้ไทยไปอยู่ต่างประเทศที่ไม่มีอย่างประเทศเรา อยากขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ให้เยอะขึ้น อยากให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น

อาจารย์โจ กล่าวทิ้งท้ายว่า ได้เปิดสอนให้กับนักท่องเที่ยวแล้วกลุ่มคนที่สนใจเพื่อนำไปต่อยอดเป็นอาชีพ และนอกจากนี้ยังได้มีโอกาสไปสอนตามชุมชนต่างๆ

รู้สึกดีใจเมื่อชุมชนนั้นสามารถนำไปต่อยอดพัฒนาเป็นอาชีพได้จนประสบความสำเร็จ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง