รอเคาะ 14 ธ.ค.นี้ แยกจัดสรรงบ "บัตรทอง" ส่วนบริการผู้ป่วย

สังคม
12 ธ.ค. 65
14:56
382
Logo Thai PBS
รอเคาะ 14 ธ.ค.นี้ แยกจัดสรรงบ "บัตรทอง" ส่วนบริการผู้ป่วย
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
บอร์ด สปสช. นัดถก 14 ธ.ค.นี้ ปม "อนุทิน" ยังไม่ลงนามหลักเกณฑ์จัดสรรงบบัตรทองปี 2566 วงเงิน 204,140 ล้าน ชี้รอความทางกฎหมายเกี่ยวกับงบส่วนส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค 21,000 ล้าน ยันไม่กระทบประชาชน และโรงพยาบาล

วันนี้ (12 ธ.ค.2565) นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ดสปสช.) ยังไม่ลงนามในหลักเกณฑ์การดำเนินงานและการบริหารจัดการงบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติปี 2566 ทำให้ยังไม่มีการจัดสรรงบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรืองบบัตรทอง ลงไปยังหน่วยบริการหรือสถานพยาบาลต่างๆ

รองปลัดสธ.ระบุว่า สาเหตุจากการนำงบบริการสร้างเสริมสุขภาพ และป้องกันโรคไปใช้ให้บริการนอกเหนือจากสิทธิบัตรทอง คือสิทธิสวัสดิการข้าราชการและประกันสังคม อาจไม่สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่และภารกิจตามที่ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี 2545 ซึ่ง สธ.ร่วมกับ สปสช.หารือคณะรัฐมนตรีและคณะกรรมการกฤษฎีกา และอยู่ระหว่างการพิจารณาให้มีความชัดเจน

นพ.พงศ์เกษม กล่าวว่า ขณะนี้ สธ.และสปสช.เร่งแก้ไขปัญหา โดยประชาชนต้องไม่ได้รับผลกระทบ โดยให้หน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่ง จัดบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคตามปกติ โรงพยาบาลไม่เดือดร้อน และต้องเป็นไปตามกฎหมาย

จากการหารือนอกรอบเมื่อสัปดาห์ก่อน เลขาฯ สปสช. เห็นชอบตรงกันเรื่องข้อเสนอให้แยกจัดสรรเงินบริการประเภทผู้ป่วยนอก และผู้ป่วยใน และรายการอื่นๆ ไปให้หน่วยบริการก่อน เพื่อให้ส่งผลกระทบต่อหน่วยบริการ

งบบัตรทองปีงบประมาณ 2566 วงเงิน 204,140.03 ล้านบาท เป็นงบส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ที่รอการพิจารณาทางข้อกฎหมายเพียง 21,381.11 ล้านบาท หรือ 10%

นอกจากนี้ งบส่วนอื่นๆ ที่ขอให้แยกจัดสรรเป็นงบส่วนใหญ่ เช่น งบเหมาจ่ายรายหัว 161,602.67 ล้านบาท ค่าบริการผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ 3,978.48 ล้านบาท ค่าบริการผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง 9,952.18 ล้านบาท 

ยันไม่กระทบประชาชน-โรงพยาบาล 

ขณะนี้โรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข ยังดำเนินการตามปกติ ส่วนใหญ่มีงบฯ พอรองรับการดำเนินงาน ระหว่างนี้หากโรงพยาบาลใด มีข้อติดขัดขอให้แจ้งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาในระดับจังหวัด และรายงานผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขประจำเขตสุขภาพ แก้ไขปัญหาในระดับเขตสุขภาพ

บอร์ด สปสช.จะมีการประชุมในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ หากมีมติให้แยกจัด สรรงบตามที่กระทรวงเสนอ คาดว่าหน่วยบริการจะได้รับจัดสรรงบส่วนใหญ่สำหรับดูแลประชาชนภายในปลายเดือนธ.ค.นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง