"บิ๊กโจ๊ก" สรุปคดีทุนจีน ไม่พบ "ตู้ห่าว" ผิดอาชญากรรมข้ามชาติ

อาชญากรรม
14 ธ.ค. 65
14:08
13,193
Logo Thai PBS
"บิ๊กโจ๊ก" สรุปคดีทุนจีน ไม่พบ "ตู้ห่าว" ผิดอาชญากรรมข้ามชาติ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"บิ๊กโจ๊ก" สรุปการสืบสวนคดีทุนจีนผิดกฎหมาย ส่งให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังไม่พบความผิดอาชญากรรมข้ามชาติ เพราะไม่มีการวางแผนจากต่างประเทศเข้ามาก่อเหตุในไทย ยืนยันไม่น้อยใจที่ "ชูวิทย์" มีข้อมูลเชิงลึกมากกว่าตำรวจ

วันนี้ (14 ธ.ค.2565) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสืบสวนกลุ่มธุรกิจคนจีนผิดกฎหมาย โดยขณะนี้ทางทีมสืบสวนที่รับผิดชอบได้สืบสวนแล้ว ยังไม่พบความผิดนอกราชอาณาจักรของกลุ่มนายตู้ห่าว และได้สรุปส่งไปให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลแล้ว

โดยหากจะดำเนินคดีนอกราชอาณาจักรได้นั้น จะต้องสืบสวนให้ได้แน่ชัดก่อนว่า ขบวนการนี้ต้องเตรียมการวางแผนมาจากต่างประเทศและเข้ามาก่อเหตุในไทย รวมทั้งยาเสพติด Happy Water ที่พบในจินหลิงผับ พบว่าผสมเองในไทยไม่ได้นำเข้า ไม่พบการโอนเงินไปยังต่างประเทศ จึงยังไม่พบความผิดในส่วนนี้ และไม่สามารถแจ้งข้อหาอาชญากรรมข้ามชาติได้

เช่นเดียวกับคดียาเสพติดทั่วไปที่จับได้ หากจะดำเนินคดีความผิดอาชญากรรมข้ามชาติจะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า มีการวางแผนนำเข้าประเทศอย่างชัดเจนหรือไม่ เพราะหากนำเสนออัยการแล้วจะสั่งไม่ฟ้อง

ส่วนที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้ข้อมูลว่า พบข้อมูลเข้าข่ายความผิดอาชญากรรมข้ามชาตินั้น น่าจะได้รับข้อมูลการสืบสวนมาจากผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวน และเป็นผู้มีอำนาจในการสั่งฟ้องผู้ต้องหาตามกฎหมาย ส่วนในชุดสืบสวนของตัวเองนั้น เป็นการตั้งขึ้นมาจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเพื่อกำกับดูแล และร่วมสืบสวนเพื่อนำความเห็นส่งไปให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเท่านั้น

ขณะที่การแจ้งข้อกล่าวหาเจ้าของสถานบริการกับพนักงานรักษาความปลอดภัยของจินหลิงผับ เป็นการแจ้งข้อหาของชุดสืบสวนนครบาลที่พบหลักฐานในขณะนั้น และที่ผ่านมาไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสำนวนการสอบสวน จึงไม่ทราบรายละเอียด แต่ทราบว่าได้สั่งไม่ฟ้องในข้อหานี้แล้ว และเพิ่งมาทราบว่าพนักงานรักษาความปลอดภัยคนนี้ถูกแจ้งข้อหา ก่อนที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาให้ข้อมูลก่อน 1 วัน

การสืบสวนดำเนินการไปแล้วร้อยละ 90 และกำลังดำเนินคดีกับตำรวจทั้งนายพลและชั้นประทวนที่เกี่ยวข้อง ในการเอื้อประโยชน์ ไม่เว้นแต่เพื่อนร่วมรุ่นของตัวเอง ซึ่งจะดำเนินการให้เสร็จภายใน 2 สัปดาห์ และยอมรับว่าข้อมูลของ นายชูวิทย์ ที่ได้นำมาให้ตำรวจ ถือเป็นข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์ต่อการสืบสวน ซึ่งได้รวบรวมส่งไปให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลต่อ พร้อมยืนยันไม่น้อยใจที่ภาคประชาชนจะมีข้อมูลเชิงลึกกว่าตำรวจ เพราะที่ผ่านมารับข้อมูลของทุกฝ่ายมาสืบสวนทั้งหมด

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเรียกคณะทำงานทั้งหมดมาประชุมสรุปสำนวนการสืบสวนสอบสวนอีกครั้ง ในวันศุกร์ที่ 16 ธ.ค.นี้ เวลา 16.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง