ลูกช้างป่า "ธันวา" มีแรงขึ้น-เดินได้ไกลขึ้น

สิ่งแวดล้อม
18 ธ.ค. 65
12:57
137
Logo Thai PBS
ลูกช้างป่า "ธันวา" มีแรงขึ้น-เดินได้ไกลขึ้น
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ทีมสัตวแพทย์อัปเดตอาการลูกช้างป่า "ธันวา" พลัดหลงโขลง ล่าสุดมีเรี่ยวแรงมากขึ้น เดินไกลขึ้น ตอบรับเมื่อพี่เลี้ยงเรียกชื่อ ทีมแพทย์ให้กินน้ำต้มข้าว เนื้อข้าวต้มเปื่อย และนมทุก 2 ชั่วโมง พร้อมให้ยา-วิตามิน และเฝ้าใกล้ชิด 24 ชั่วโมง

วันนี้ (18 ธ.ค.2565) นายอนันต์ ศรีผุดผ่อง หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์พัฒนาจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก, สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก รายงานความคืบหน้าการดูแลรักษา "ธันวา" ลูกช้างป่าพลัดหลง มีอาการป่วยและได้รับบาดเจ็บ ว่า

ภาพ : เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก

ภาพ : เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก

ภาพ : เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก

ในวันที่ 17 ธ.ค.2565 เวลา 06.00-24.00 น. พบว่า ลูกช้างป่าถ่ายอุจจาระเหลวเป็นเนื้อครีม สีปกติ ปัสสาวะปกติ ให้สารน้ำเข้าทางก้น ป้อนน้ำและเกลือแร่ให้ถี่ขึ้น ไม่สามารถให้สารน้ำเข้าทางหลอดเลือดดำบริเวณใบหูได้ เนื่องจากการให้สารน้ำทุกวันผ่านทางหลอดเลือดดำบริเวณใบหู ส่งผลให้เส้นเลือดเสียหาย ต้องรอให้หายดี 3-5 วัน

ภาพ : เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก

ภาพ : เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก

ภาพ : เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก

เจ้าหน้าที่และทีมสัตวแพทย์ให้กินน้ำต้มข้าว เนื้อข้าวต้มเปื่อย และนมทุก 2 ชั่วโมง พร้อมให้ยาฆ่าเชื้อแบบกิน วิตามินแบบกิน ให้ยาลดกรดและยาขับลมแบบกิน ตรวจเช็คระดับกลูโคสในกระแสเลือด 1 ครั้ง อยู่ในระดับ 63 mg/dL (ระดับปกติ 80-120 mg/dL) ยังต้องใช้การพยุงตัวช่วยในการลุก นั่ง ยืน เดิน

ภาพ : เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก

ภาพ : เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก

ภาพ : เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก

ทั้งนี้ ลูกช้างป่ามีเรี่ยวแรงและกำลังมากขึ้น เดินได้ไกลขึ้น (แต่ยังต้องพยุงตัว) เมื่อเรียกชื่อมีการร้องตอบพี่เลี้ยงได้มากขึ้น นอกจากนี้ สพ.ญ.ลาดทองแท้ มีพันธุ์ สัตวแพทย์ประจำมูลนิธิพระคชบาล เข้าร่วมทำการรักษา ขณะที่ทีมสัตวแพทย์ เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติพุเตย ยังดูแลลูกช้างป่าอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง