วันนี้ (31 ธ.ค.2565) เวลา 11.00 น. พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ในวันนี้กองทัพเรือยังคงดำเนินการ เร่งค้นหาและช่วยเหลือกำลังพล กรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ซึ่งในขณะนี้การค้นหาบนผิวน้ำได้มีการปูพรมค้นหาจนครอบคลุมทุกพื้นที่แล้ว
ดังนั้นจึงได้เพิ่มการค้นหาใต้น้ำและตามแนวชายฝั่งเป็นหลัก ซึ่งได้มีการแบ่งกำลังออกเป็นชุดค้นหาใต้น้ำ ชุดค้นหาผิวน้ำ และชุดค้นหาบนเกาะ เพื่อดำเนินการค้นหาตามเกาะแก่งต่างๆ ตั้งแต่พื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ จ.ชุมพร รวมถึง จ.สุราษฎร์ธานี ด้วยกำลังพลจาก กองทัพเรือ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และอาสาสมัครในพื้นที่ โดยเพิ่มแผนการค้นหาและสำรวจใต้ทะเล เกาะลังกาจิว เกาะทองหลาง เกาะลังกาจิว ทองหลาง แหลมค้างคาว และเกาะเสม็ด(ชุมพร) ผลการปฏิบัติจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการพบผู้สูญหายเพิ่ม
สำหรับในวันนี้ เวลา 15.00 น. พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ มีกำหนดเดินทางไปเป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ จ่าเอก ชูชัย เชิดชิด จ่าโท ธวัชชัย สาพิราช จ่าตรี สิริธิติ งามทอง จ่าตรี นพณัฐ คำวงศ์ พลทหาร ปรีชา รักษาภักดี และ พลทหาร ชลัช อ้อยทองฌาปนสถานกองทัพเรือสัตหีบ
ในขณะที่ ช่วงบ่ายวันนี้ พล.ร.อ.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือ และคณะ จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมกำลังพลกองทัพเรือและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ที่ได้ร่วมปฏิบัติภารกิจในการการค้นหาและช่วยเหลือกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ณ ท่าเรือประจวบ อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และในพื้นที่จังหวัดชุมพร ซึ่งได้ดำเนินการค้นหาและช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงวันนี้
โฆษกกองทัพเรือกล่าวว่า จากกรณีที่มีสื่อมวลชนหลายสำนักนำเสนอข่าวว่ามีการยืนยันว่าผู้เสียชีวิต 1 รายที่อยู่ระหว่างการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลคือ นาวาตรี พลรัตน์ สิโรดม หรือ ต้นเรือพลับ นั้น ขอยืนยันว่า ปัจจุบันยังอยู่ในกระบวนการของการตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ตราบใดที่ผลการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลยังไม่ครบถ้วนตามกระบวนการ กองทัพเรือจะไม่ประกาศเป็นรายชื่อผู้เสียชีวิต โดยขอความกรุณาได้เข้าใจและเห็นใจครอบครัวของผู้สูญเสียด้วย ทั้งนี้หากมีการยืนยันและระบุได้ว่าเป็นกำลังพลนายใด กองทัพเรือจะชี้แจงให้ทราบต่อไปทันที
สรุปยอดการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (วันที่ 31 ธันวาคม 2565) เวลา 11.00 น. ยอดกำลังพล 105 นาย รอดชีวิต จำนวน 76 นาย เสียชีวิตรวม 24 นาย ในจำนวนนี้สามารถระบุชื่อได้แล้ว 23 นาย และมีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือและอยู่ในกระบวนการของการพิสูจน์เอกลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคล 1 นาย คงเหลือผู้สูญหายจำนวน 5 นาย