ไทย บุกแพ้ มาเลเซีย 0-1 ลุ้นเข้ารอบศึกอาเซียนคัพ

กีฬา
8 ม.ค. 66
11:14
306
Logo Thai PBS
ไทย บุกแพ้ มาเลเซีย 0-1 ลุ้นเข้ารอบศึกอาเซียนคัพ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ทีมชาติไทยบุกไปพ่าย มาเลเซีย ในการแข่งขันอาเซียนคัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ที่สนามบูกิต จาริล ยังมีลุ้นเกมแก้ตัวรอบวันที่ 10 ม.ค.นี้ เวลา 19.30 น. ที่สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2565 ศึกอาเซียนคัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ที่สนามบูกิต จาริล ทีมชาติไทย แชมป์กลุ่มเอ บุกไปเยือน มาเลเซีย รองแชมป์กลุ่มบี ซึ่งสถิติของทีมชาติไทย ในการลงเล่นที่บูกิตจาริลไม่ดี โดยอาเซียนคัพที่เจอกัน 4 ครั้งที่สนามแห่งนี้ ทีมชาติไทย ไม่เคยเอาชนะมาเลเซียได้เลยสักครั้งเดียว โดยเกมนี้มีแฟนบอลเข้ามาชมเกมกว่า 62,900 คน

เกมนี้โค้ชมาโน โพลกิง เฮดโค้ชทีมชาติไทย ปรับทีมจากระบบ 4-4-2 ที่ชนะกัมพูชาเกม ล่าสุด มาใช้ 4-2-3-1 โดยเปลี่ยน 1 ตำแหน่ง คือ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี มิดฟิลด์จากบุรีรัมย์ ที่ทำผลงานได้ดีหลายนัดในฐานะตัวสำรอง ออกสตาร์ทตัวจริง เพื่อแพ็กเกมแดนกลาง พร้อมถอด อดิศักดิ์ ไกรษร ไว้ที่ม้านั่งสำรอง และใช้ ธีรศิลป์ แดงดา ดาวซัลโวที่ยิงไปแล้ว 5 ประตู ยืนกองหน้าตัวเป้า

เริ่มเกมมา 11 นาที เป็นมาเลเซียที่นำก่อน 1-0 จากจังหวะ บอลไดเร็กออกข้าง ก่อนที่จะมีตัวชงให้ ไฟซัล ฮาลิม ใช้ความเร็วมาสะกิดบอลเข้าประตูไป

จากนั้นทีมชาติไทย มีโอกาสครอบครองเกมได้เหนือกว่า และสร้างสรรค์เกมรุกเข้าทำได้หลายครั้ง จนมีโอกาสยิง 16 ครั้ง แต่ตรงกรอบเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น จบครึ่งแรก มาเลเซีย นำไทย 1-0

ครึ่งหลังนาที 55 มาเลเซีย เกือบได้ประตูหนีห่าง 2-0 จากจังหวะโยนฟรีคิกเข้ามาในกรอบเขตโทษ บอลไปโดนผู้เล่นมาเลเซียเข้าประตูไปแล้ว แต่ผู้ตัดสินมาเช็กจังหวะฟาล์ว เมื่อ ดาร์เรน ล็อค กองหน้ามาเลเซีย ไปชักศอกใส่ พรรษา เหมวิบูลย์ จนศรีษะแตก ผู้ตัดสินให้เป็นฟาล์ว พร้อมยกเลิกประตูมาเลเซีย

จากนั้นในช่วงท้ายเกมนาที 83 บดินทร์ ผาลา ใช้ความสามารถเฉพาะตัวเลี้ยงหลบเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจะถูกแนวรับมาเลเซียเข้าบอลหนัก แต่ผู้ตัดสินมองว่า ไม่เป็นจังหวะฟาล์ว และไม่ให้จุดโทษกับทีมชาติไทย

เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม ทีมชาติไทย บุกไปแพ้มาเลเซีย 0-1 ยังคงไม่สามารถเอาชนะทีมเสือเหลือง ในถิ่นบูกิตจาริล ได้ต่อไป

สำหรับสถิติหลังเกม ไทยครองบอลได้มากกว่าที่ 73 เปอร์เซนต์ ส่วน มาเลเซีย ครองบอลได้ 27 เปอร์เซนต์เท่านั้น การยิงเรายิงไป 24 ครั้งเข้ากรอบไป 4 ไม่ได้ประตูส่วนมาเล ยิง 6 เข้ากรอบ 1 และก็เป็นประตูชัย การผ่านบอลเรามากกว่า 484 กับ 133 แต่ว่าไทยก็เจาะไม่ได้

หลังเกม โค้ชมาโน โพลกิง ยอมรับว่า เกมนี้ทีมชาติไทยสามารถสร้างโอกาสได้มากมาย แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้ แต่อย่างไรก็ตามยังเหลือเกมในบ้านให้แก้ตัว ซึ่งหวังว่าลูกทีมจะรวมพลังกันและพาทีมเอาชนะได้ เพื่อไปสู่รอบชิงชนะเลิศ

สำหรับโปรแกรมนัดที่ 2 ทีมชาติไทย จะได้กลับมาเล่นที่สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต พบกับ มาเลเซีย ในวันที่ 10 ม.ค.นี้ เวลา 19.30 น.

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง