คาดโควิดในจีนพุ่งวันละ 30,000 คนช่วงเทศกาลตรุษจีน

ต่างประเทศ
19 ม.ค. 66
11:17
859
Logo Thai PBS
คาดโควิดในจีนพุ่งวันละ 30,000 คนช่วงเทศกาลตรุษจีน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ชาวจีนบางส่วนทยอยเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ ผ่านสนามบินนานาชาติในกรุงปักกิ่ง ก่อนถึงช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน หลังจากทางการจีนยุติการบังคับใช้มาตรการโควิดเป็นศูนย์และเปิดเสรีการเดินทางระหว่างประเทศอีกครั้งเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา

วันนี้ (19 ม.ค.2566) สื่อทางการจีนรายงานอ้างข้อมูลจากหน่วยงานด้านการตรวจคนเข้าเมือง โดยระบุว่านับตั้งแต่เปิดพรมแดนเมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เดินทางเข้าหรือออกจีนประมาณ 500,000 คน/วัน ขณะที่วันพรุ่งนี้คาดว่าจะเป็นวันที่การเดินทางภายในประเทศจีนจะเพิ่มขึ้นสูงสุด ก่อนที่เทศกาลตรุษจีนจะเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการในวันเสาร์ที่ 21 ม.ค.นี้

ทางด้านกระทรวงคมนาคมจีน ประเมินว่าการเดินทางในช่วงเทศกาลปีนี้ ระหว่าง 7 ม.ค.-15 ก.พ. จะมีผู้เดินทางทั้งหมด 2,100 ล้านเที่ยว โดยเฉพาะผู้ที่ได้เดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี นับตั้งแต่โควิด-19 เริ่มระบาดเมื่อ 3 ปีก่อน

ยอดการเดินทางที่เพิ่มขึ้นในช่วงนี้ ส่งผลให้บริษัทแอร์ฟินิตีจากอังกฤษ ซึ่งทำวิจัยอิสระด้านสาธารณสุข ประเมินว่ามีความเป็นไปได้ที่จีนจะมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ถึงวันละ 36,000 คน ในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน ซึ่งจะทำให้ช่วงวันหยุดที่จะถึงนี้กลายเป็นช่วงที่สถานการณ์เลวร้ายที่สุดของการแพร่ระบาด

โดยการประเมินที่เปิดเผยตัวเลขออกมาใหม่นี้ เป็นการปรับเปลี่ยนข้อมูลใหม่ จากเดิมที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทางบริษัทคาดว่าจีนจะมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 วันละ 25,000 คน

ซึ่งการประเมินใหม่ที่คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะสูงกว่าที่คาดไว้อีกถึง 11,000 คนนี้ มีที่มาจากข้อมูลจากแต่ละมณฑลของจีน ประกอบกับอัตราการเสียชีวิตที่เคยเกิดขึ้นในประเทศอื่นๆ ในช่วงที่ยกเลิกมาตรการควบคุมโรคในช่วงแรก

นอกจากนี้ การประเมินดังกล่าวยังระบุด้วยว่า จีนน่าจะเผชิญสถานการณ์การระบาดที่เป็นระลอกเดียว และเกิดขึ้นต่อเนื่องยาวนาน แต่ความรุนแรงสูงมากกว่าจะมีผู้ติดเชื้อหรือเสียชีวิตพุ่งสูงขึ้นหลายๆ ระลอกเหมือนกับประเทศอื่นๆ

เนื่องจากการเดินทางในช่วงเทศกาลตรุษจีนจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้โรคแพร่ระบาดอย่างหนัก ซึ่งสถานการณ์นี้จะส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขอย่างมากและอาจทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่าที่ควรจะเป็น

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง