กลุ่มนักเคลื่อนไหวในเกาหลีใต้ ประเมิน "คนครึ่งล้าน" เสี่ยงรับสารกัมมันตภาพรังสีจากนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ

ต่างประเทศ
24 ก.พ. 66
16:31
337
Logo Thai PBS
กลุ่มนักเคลื่อนไหวในเกาหลีใต้ ประเมิน "คนครึ่งล้าน" เสี่ยงรับสารกัมมันตภาพรังสีจากนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ
ชาวเกาหลีเหนือครึ่งล้าน เสี่ยงรับสารกัมมันตภาพรังสีที่ไหลลงสู่แหล่งน้ำ หลังรายงานปี 60-61 พบกลุ่มตัวอย่างมีความผิดปกติทางพันธุกรรม คาดมาจากการทดสอบนิวเคลียร์ของทางการเกาหลีเหนือ และความเสี่ยงนี้อาจกระทบต่อผู้คนในเกาหลีใต้ จีนและญี่ปุ่น

วันนี้ (24 ก.พ.2566) สำนักข่าว BBC รายงานว่า องค์กรนักเคลื่อนไหวและนักวิจัยจากเกาหลีใต้ เกาหลีเหนือ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และแคนาดา (Transitional Justice Working Group : TJWG) ร่วมกันเปิดเผยข้อมูลเรียกร้องให้ทางการเกาหลีใต้ตรวจสอบตัวอย่างน้ำจากแหล่งน้ำที่อยู่ใกล้กับ ปุงกเย-รี ซึ่งเป็นที่ตั้งหลักของนิวเคลียร์ในเกาหลีเหนือ และผู้ย้ายถิ่นฐานที่เคยอาศัยอยู่ในเกาหลีเหนือ

กลุ่มนักเคลื่อนไหวประมาณการไว้ว่ามีผู้อาศัยใน ปุงกเย-รี มากกว่า 540,000 คน ที่อาจตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากสารกัมมันตภาพรังสีที่ปนเปื้อนในแหล่งน้ำ ซึ่งไม่มีใครประเมินได้ว่าขอบเขตที่สารกัมมันตภาพรังสีกระจายวงนั้นกว้างขวางเพียงใด

โดยก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ที่ ปุงกเย-รี ครั้งล่าสุดในปี 2560 ถือเป็นการทดสอบครั้งใหญ่ที่สุดจากการทดสอบทั้งหมด 6 ครั้ง โครงการอาวุธของเกาหลีเหนือเร่งพัฒนาภายใต้คำสั่งผู้นำ คิม จอง อึน ซึ่งกล่าวเมื่อเดือน ก.ย.2565 ว่าอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือไม่ได้ออกแบบมาเพื่อป้องกันสงครามอีกต่อไป แต่ยังสามารถใช้ในเชิงรุกเพื่อเอาชนะสงครามได้อีกด้วย

ผู้นำเกาหลีเหนือพยายามดึงความสนใจจากนานาประเทศในด้านความสามารถด้านอาวุธ โดยไม่สนใจประเด็นสิทธิมนุษยชน

ข้อความบางตอนจากการรายงานของ TJWG

ทางด้าน สก็อตต์ สไนเดอร์ นักวิชาการอาวุโสด้านเกาหลีศึกษา แห่งสภาความสัมพันธ์ต่างประเทศ กล่าวว่าการทดสอบนิวเคลียร์มีผลสอดคล้องกัน ระหว่างการได้รับสารกัมมันตภาพรังสีและผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งในเกาหลีเหนือ นักวิทยาศาสตร์ไม่ได้แสดงความประหลาดใจแต่อย่างใด เพราะข้อมูลการสำรวจสำมะโนประชากรของเกาหลีเหนือในปี 2551 แสดงให้เห็นว่า 1 ใน 6 ของครัวเรือนในพื้นที่แห่งหนึ่งใน ปุงกเย-รี ก็ใช้น้ำบาดาลเป็นน้ำดื่มและน้ำเพื่อการเกษตร

ทางด้านเกาหลีใต้ มีข้อมูลจากกระทรวงการรวมชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารในเกาหลีใต้ที่ส่งเสริมการรวมชาติเกาหลี เปิดเผยข้อมูลการนำชาวเกาหลีเหนือที่ย้ายมาอยู่เกาหลีใต้มาตรวจร่างกายในช่วงปี 2560-2561 พบว่ากลุ่มตัวอย่าง 9 ใน 40 คน มีระดับการปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีในร่างกายที่น่ากังวล และพบความผิดปกติทางพันธุกรรม

นอกจากนี้ กลุ่ม TJWG กล่าวว่าประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เกาหลีใต้ จีนและญี่ปุ่น ก็อาจมีความเสี่ยงเช่นกัน เนื่องจากการลักลอบนำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและทางทะเล เช่นเดียวกับอาหารพิเศษของเกาหลีเหนือ เช่น เห็ดสน ที่ได้จากพื้นที่ใกล้กับ ปุงกเย-รี

กลุ่ม TJWG ระบุว่า รัฐบาลของประเทศเพื่อนบ้านเกาหลีใต้อาจจะไม่มีความสามารถในการปกป้องประชากรของตนมากพอจากความเสี่ยงนี้

โดยพวกเขาตั้งข้อสังเกตว่า ในปี 2561 รัฐบาลเกาหลีใต้ถูกวิจารณ์เรื่องรับและแจก "เห็ดสน" เป็นของขวัญจากคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ไปยังครอบครัวผู้สูงอายุกว่า 4,000 ครอบครัว โดยปราศจากการตรวจหาสารกัมมันตภาพรังสี ทั้งๆ ที่ เห็ดสน เกิดในบริเวณทดสอบนิวเคลียร์

ส่วนทางการจีนก็ล้มเหลวในการหยุดยั้งการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรและทางทะเลของเกาหลีเหนือภายในจีนเอง และไปยังประเทศที่สาม

จึงนำมาซึ่งการเรียกร้องให้นำผู้ย้ายถิ่นฐานอีก 881 คนมาตรวจร่างกายเพิ่ม เพื่อดูความน่าจะเป็นของการปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีในร่างกาย และสามารถระบุความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นกับประชาชนที่อาศัยใกล้ ปุงกเย-รี ที่ตั้งหลักของนิวเคลียร์ในเกาหลีเหนือ รวมถึงเตือนภัยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จีนและญี่ปุ่น และขอให้มีการสอบสวนระดับนานาชาติเกี่ยวกับความเสี่ยงของสารกัมมันตรังสีจากเกาหลีเหนืออีกด้วย

ที่มา : BBC

อ่านข่าวเกี่ยวข้องกับเกาหลีเหนือ : 

เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธครั้งที่ 2 ในรอบ 2 วัน

ครบรอบ 75 ปีกองทัพ เกาหลีเหนือจัดแสดงขีปนาวุธข้ามทวีปครั้งใหญ่ที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง