"เสรีรวมไทย" เปิดนโยบาย ปฏิรูป กกต. - องค์กรอิสระ

การเมือง
1 มี.ค. 66
15:42
716
Logo Thai PBS
"เสรีรวมไทย" เปิดนโยบาย ปฏิรูป กกต. - องค์กรอิสระ
"พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์" พร้อมด้วยแกนนำพรรคเสรีรวมไทย เปิดนโยบาย ปฏิรูป กกต. - องค์กรอิสระ รื้อคุณสมบัติมหาเทพ ป้องกันตอบแทนบุญคุณ ชงยุบ กกต. จังหวัดกลับมาใช้กลไก มท. ให้ตำรวจคุมหน่วยเลือกตั้ง

วันนี้ (1 มี.ค.2566) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย พร้อมแกนนำพรรค แถลงเปิดนโยบายด้านการเมือง ชุดที่ 1 เรื่องเกี่ยวกับการ “ปฏิรูป กรรมการการเลือกตั้ง และองค์กรอิสระทุกองค์กร” โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุว่าขณะนี้กฎหมาย กกต. เอื้อให้กับพรรคการเมืองใหญ่ ซึ่งจะเห็นได้จากการจัดเวทีปราศรัย เอาคนมาเป็นหมื่นเป็นแสน จ้างมากันทั้งนั้น แต่ กกต. ทำเป็นไม่รู้เรื่อง

เช่นเดียวกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติที่คอยรังแกคนอื่น ซึ่งนายกรัฐมนตรี ก็เข้ามาก้าวก่าย ป.ป.ช. จึงเป็นองค์กรอิสระไม่จริง คอยรับใช้รัฐบาล มาตั้งแต่ยุค คสช. แต่งตั้งมา ที่ผ่านมา กกต.ทุจริตอย่างเห็นได้ชัดเจน ไม่ทำตัวเป็นกลางเอื้อฝ่ายรัฐ มีเลือกตั้งใหม่ ก็ทำกันอีกแล้ว เช่นการนำคนต่างด้าวมาคิดสัดส่วนการแบ่งเขตเลือกตั้ง

หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ยังเปิดข้อมูลทุจริตเลือกตั้ง ปี 2562 การเลือกตั้งซ่อมโกงทุกแห่ง ทั้งซื้อเสียง ขนคน จ้างคนไปฟัง มีพยานร้องไป กลับยกคำร้องหมดอ้างว่าหลักฐานไม่พอ และการเลือกตั้งปัจจุบันเห็นความบกพร่องของ กกต. จากการประกาศแนวปฏิบัติ 180 วัน ที่เปิดให้ฝ่ายรัฐบาลลงพื้นที่พบประชาชนเมื่อเกิดภัยพิบัติได้ การห้ามช่วยงานบวช การศพ งานแต่ง ทั้งที่เป็นประเพณีไทย สิ่งที่ กกต. รู้อยู่แก่ใจ ว่าไม่ใช่สุจริตเที่ยงธรรม แต่เป็นเครื่องมือรัฐบาล เป็นความเฮงซวย ชั่วร้าย ที่จำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงเปลี่ยนแปลง กกต. ส่วนกลาง

พร้อมเสนอยุบ กกต.จังหวัดทั้งหมด เพราะเห็นว่าไม่มีประโยชน์ และให้กลับไปใช้กลไกกระทรวงมหาดไทย โดยเอาตำรวจมาคุมหน่วยเลือกตั้ง คอยจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเสรีรวมไทย ชี้แจงนโยบายการเมืองปฏิรูปองค์กรอิสระ 4 ข้อ คือ 1.กกต. ต้องมีที่มาเชื่อมโยงประชาชนโดยการเปลี่ยนกระบวนการสรรหามีตัวแทนพรรคการเมืองคือ ตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านฝ่ายละ 2 คน โดยฝ่ายรัฐบาลคือ ประธานสภาฯ แล้วเลือกพรรคฝ่ายรัฐบาลอีก 1 พรรค ส่วนฝ่ายค้านให้ผู้นำฝ่ายค้านและพรรคการเมืองอีก 1 พรรค เดิมที่ผ่านมาองค์ประกอบในการสรรหาองค์กรอิสระ จะเป็นองค์กรอิสระกันเอง เป็นลักษณะผลัดกันเกาหลัง

2. การกำหนดคุณสมบัติ คนเป็นองค์กรอิสระที่ผ่านมามีลักษณะเหมือนมหาเทพ อยู่คนเดียวโดยเฉพาะการกำหนดต้องมาจากตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงเป็นการปิดโอกาสคนที่จะเข้ามาทำงานเราจึงได้ข้าราชการระดับสูงที่เกษียณอายุราชการซึ่งคนเหล่านี้กว่าจะขึ้นระดับสูง ก็มีการวิ่งเต้น เมื่อมาดำรงตำแหน่งจึงมีเรื่องบุญคุณต้องตอบแทน

3.ประชาชนสามารถตรวจสอบและถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระได้ โดยประชาชนสามารถเข้าชื่อ 10,000 คน ส่งประธานวุฒิสภา และ ส.ส. เข้าชื่อกัน ไม่ใช่ให้ไปร้องกับ ป.ป.ช.เหมือนปัจจุบัน

4. ต้องแก้กฎหมาย กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ และรัฐธรรมนูญ ซึ่งกระบวนการแก้ไขกฎหมายต้องทำให้เสร็จภายใน 1 ปี ตั้งแต่การเลือกตั้งและเมื่อแก้กฎหมายเสร็จ ผู้ดำรงตำแหน่งเดิมต้องพ้นจากตำแหน่ง โดยสรรหาคนใหม่ทันที 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง