8 ธนาคาร เปิดศูนย์รับแจ้งเหตุภัยทางการเงินจากมิจฉาชีพ โทรได้ 24 ชม.

เศรษฐกิจ
3 มี.ค. 66
09:27
5,082
Logo Thai PBS
8 ธนาคาร เปิดศูนย์รับแจ้งเหตุภัยทางการเงินจากมิจฉาชีพ โทรได้ 24 ชม.
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
​ธนาคาร 8 แห่ง เปิดศูนย์รับแจ้งเหตุภัยทางการเงินจากมิจฉาชีพ เพื่อเป็นช่องทางให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โทรแจ้งเหตุได้ 24 ชั่วโมง

วันนี้ (3 มี.ค.2566) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประสานความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหามิจฉาชีพหลอกหลวงประชาชนผ่านช่องทางออนไลน์ มีการโอนเงินออกจากบัญชีผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารจนเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง กระทรวงการคลัง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ทำงานร่วมกับสมาคมธนาคารไทย และธนาคารของรัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันปัญหาและบรรเทาความเสียหายที่จะเกิดแก่ประชาชน

ล่าสุด ทั้งส่วนธนาคารพาณิชย์และธนาคารเฉพาะกิจรวม 8 แห่ง ได้เปิดศูนย์รับแจ้งเหตุภัยทางการเงินจากมิจฉาชีพของธนาคาร เพื่อเป็นช่องทางให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ หรือตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพโทรแจ้งเหตุ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสกัดกั้นความเสียหายให้เร็วที่สุด ประกอบด้วย

  • ธนาคารกสิกรไทย 0-2888-8888 กด 001
  • ธนาคารกรุงไทย 0-2111-1111 กด 108
  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 1572 กด 5
  • ธนาคารกรุงเทพ 1333 หรือ 0-2645-5555 กด *3
  • ธนาคารไทยพาณิชย์ 0-2777-7575, ธนาคารทหารไทยธนชาต 1428 กด 03
  • ธนาคารออมสิน 1115 กด 6 และ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย 0-2626-7777 กด 00

“หากประชาชนท่านใดเห็นว่าตนเองมีความเสี่ยงที่อาจประสบภัยจากมิจฉาชีพทางออนไลน์เนื่องจากมีการติดตั้งแอปพลิเคชันธนาคารทางมือถือ มีการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านมือถืออยู่บ่อยๆ ขอให้บันทึกเบอร์ติดต่อศูนย์แจ้งเหตุฯ ของธนาคารที่ตนเองเป็นลูกค้า เพื่อว่าเมื่อเกิดเหตุจะได้โทรประสานเพื่อระงับธุรกรรมได้ทันที” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า การเปิดศูนย์แจ้งเหตุภัยทางการเงินจากมิจฉาชีพของสถาบันการเงินต่างๆ เป็นมาตรการควบคู่กับที่ขณะนี้ รัฐบาลได้ผลักดัน พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. …. เพื่อให้เป็นกฎหมายที่เข้ามาช่วยจัดการปัญหาได้อย่างเด็ดขาด ซึ่ง พ.ร.ก.ฯ มีสาระสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการปราบปรามการกระทำผิด ด้วยมาตรการต่างๆ

อาทิ การแลกเปลี่ยนข้อมูลของสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องผ่านระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่หน่วยงานที่มีอำนาจให้การอนุญาต เพื่อประสิทธิภาพการตรวจสอบธุรกรรมที่ผิดปกติ สถาบันการเงินสามารถระงับธุรกรรมได้เมื่อพบเหตุอันต้องสงสัยหรือได้รับแจ้งเหตุจากเจ้าของบัญชี ตลอดจนการกวาดล้างบัญชีม้า เป็นต้น

โดยขณะนี้ ดีอีเอส ธปท. สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และสมาคมธนาคารไทยอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบกลางที่เรียกว่า ศูนย์ตรวจเช็กธุรกรรมที่มีความเสี่ยงทุจริต (Central Fraud Registry) เพื่อเป็นกลไกด้านข้อมูลที่จะช่วยในการยับยั้งความเสียหายที่อาจเกิดกับประชาชนเจ้าของบัญชีที่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง