บทวิเคราะห์ : “เสี่ยแป้งมันพันล้าน” เสริมเพื่อไทย วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล

การเมือง
21 มี.ค. 66
09:22
4,217
Logo Thai PBS
บทวิเคราะห์ : “เสี่ยแป้งมันพันล้าน” เสริมเพื่อไทย วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
มีสักกี่คนที่เกิดในครอบครัวยากจนลูกดก เรียนครั้งแรกจบแค่ป.7 เพราะต้องออกมาทำนาทำไร่มันสำปะหลังหาเงินส่งเสียน้อง ๆ ก่อนที่ในเวลาต่อมา จะกลับไปเรียน กศน. จนจบมัธยมปลาย

แล้วไปเรียนต่อจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง กลายเป็นไอดอล กศน.วีไอพี

ปั้นอาณาจักรธุรกิจแป้งมันเอี่ยมเฮงอุตสาหกรรม มูลค่าเป็นพันล้านบาท ชาวบ้านหนุนให้เป็นกำนันแหนบทอง 2 สมัย ต่อด้วยการก้าวเข้าเวทีการเมือง ได้เป็นรัฐมนตรีช่วย 2 กระทรวง ล่าสุด เข้าร่วมทัพกับพรรคเพื่อไทย สานฝันแลนด์สไลด์ ในจังหวัดนครราชสีมา ส่วนภรรยาได้เป็นนายกฯ อบจ.โคราช

นี่คือ “กำนันป้อ” นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล หนึ่งในคนบ้านใหม่ที่ใครมองข้ามไปไม่ได้

แม้จะเพิ่งถูก “บ้านใหญ่” บุรีรัมย์ ทาบทามให้เป็นแม่ทัพใหญ่ลุยศึกเลือกตั้ง ส.ส.นครราชสีมา ปี 2562 และสามารถปักธง ส.ส.ในสังกัดได้ 3 คน พร้อมได้ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ เป็นรางวัล แต่ความจริง เขาเป็นหัวคะแนนใหญ่ของนักการเมืองระดับชาติมาก่อนหน้านั้น

แม้แต่กับนายเสกสกล (สุภรณ์) อัตถาวงษ์ แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติในภาคอีสาน ก่อนหน้านี้ก็เกื้อกูลช่วยเหลือกันมาก่อน เพิ่งจะเป็นปฏิปักษ์เดินทางใครทางมัน ก่อนการเลือกตั้งปี 2562 นี่เอง หลังจากแรมโบ้เข้าร้อง กกต.โคราช กล่าวหามีกลุ่มนักการเมืองใหญ่ให้หัวคะแนนกว้านหาบัตรประชาชนชาวบ้าน ด้วยจุดประสงค์ต้องสงสัย

แต่ใช่ว่าเส้นทางเดินของ “กำนันป้อ” จะสดใสราบรื่นในเชิงบวกอย่างเดียว เรื่องร้ายในเชิงลบก็สลับสับเปลี่ยนเข้ามาในชีวิตของเขาไม่น้อย หลังเลือกตั้งปี 2562 เขาเกือบจะกินแห้ว หวุดหวิดวืดเก้าอี้ รมช.พาณิชย์ เนื่องจากเคยถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดคดีรุกที่ดินในเขต สปก. 1,200 ไร่ แต่เจ้าตัวปฏิเสธ ยืนยันว่าคดีความได้จบไปแล้ว

จากนั้นช่วงเข้ารับตำแหน่ง หลังชนะเลือกตั้งนายกฯอบจ.นครราชสีมา ของภรรยา คือนางยลดา หวังศุภกิจโกศล การเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินหนี้สินของป.ป.ช.เมื่อเดือนมกราคม 2564 แล้วไม่พบหนี้สินกว่า 1 หมื่นล้านบาท ของ“กำนันป้อ”และภรรยา ที่เคยยื่นต่อ ป.ป.ช. เมื่อเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีครั้งแรก จึงถูกตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดหนี้นับหมื่นล้านจึงหมดไปอย่างรวดเร็วในเวลาแค่ 2 ปี

ก่อนที่ในเวลาต่อมา “กำนันป้อ” จะชี้แจงว่า หนี้ที่หายไปมี 9 พันล้านบาทนั้น ไม่ใช่หนี้ที่ตนเองก่อ แต่เป็นหนี้ที่เกิดจากการเซ็นค้ำประกันทางธุรกิจให้กับบุคคลอื่น เมื่อมีการชดใช้แล้ว หนี้ในส่วนนี้จึงหายไป

แต่ที่หนักหน่วงที่สุด คือสายสัมพันธ์ภายในกับ”ระดับบิ๊ก”ในพรรคภูมิใจไทยง่อนแง่นเกินกว่าจะฝืนไปต่อได้ เป็นเหตุผลสำคัญว่า เหตุไฉนจึงทิ้งพรรคที่เนื้อหอมมาก ๆ สำหรับนักการเมือง ไปซบพรรคเพื่อไทย

เป็นปัจจัยหลักอย่างหนึ่งที่ทำให้แกนนำพรรคเพื่อไทยและนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย คนโคราชด้วยกัน มั่นใจว่า พรรคเพื่อไทยจะยึดพื้นที่คืน ปักธง ส.ส.ได้มากที่สุดในจังหวัด แย่งคืนกลับจากพรรคพลังประชารัฐ ที่นำโดยนายวิรัช รัตเศรษฐ ส.ส.6 คน ในการเลือกตั้งปี 2562

กำนันป้อในฐานะอีกหนึ่งขุนพลหลักค่าย “คิดใหญ่ทำเป็น” แอบตั้งหวังไว้หลายเก้าอี้ สองในจำนวนนั้น คือน้องชายแท้ๆ ที่เป็นกำนันต.กุดโบสถ์ที่เขาเคยนั่ง กับหลานชายแท้ๆ ที่เป็นรองนายกฯอบจ.โคราช ทั้ง 2 เขตแข่งกับส.ส.ปัจจุบัน สังกัดพรรคภูมิใจไทยทั้งคู่

ศึกใหญ่ ท้าทายบารมีแค่ไหน ไม่มีใครรู้ดีเท่ากำนันป้อ

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง