"ทราย สก๊อต" เตรียมว่ายน้ำ 70 กม.ผ่าน 3 จว.ทะเลอันดามัน ปลูกจิตสำนึกอนุรักษ์ธรรมชาติ

สิ่งแวดล้อม
10 เม.ย. 66
15:09
244
Logo Thai PBS
"ทราย สก๊อต" เตรียมว่ายน้ำ 70 กม.ผ่าน 3 จว.ทะเลอันดามัน ปลูกจิตสำนึกอนุรักษ์ธรรมชาติ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมอุทยานแห่งชาติฯ ทช. กรมเจ้าท่า และเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล ร่วมจัดกิจกรรม “Sea You Strong” โดย "ทราย สก๊อต" พร้อมนักว่ายน้ำ 36 คน เตรียมว่ายน้ำระยะทาง 70 กม.ผ่านอุทยานฯทางทะเล 3 แห่ง ในพื้นที่ 3 จังหวัด หวังปลูกจิตสำนึกอนุรักษ์ธรรมชาติให้ประชาชน

เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วยนายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายวิษณุ แจ้งใจ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 ผู้แทนจังหวัดกระบี่ พังงา และภูเก็ต ร่วมกับนายสิรณัฐ สก๊อต หรือ "ทราย สก๊อต" ร่วมแถลงข่าวโครงการ “Sea You Strong” ทะเลคือหัวใจของคนไทย อาสาสมัครพิทักษ์ทะเล ซึ่งเป็นการว่ายน้ำระยะทางกว่า 70 กม.ในพื้นที่ จ.กระบี่ พังงา และภูเก็ต ระหว่างวันที่ 27 - 29 เม.ย.2566

เส้นทางการว่าย จะเริ่มจาก บริเวณหาดยาว อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ผ่าน เกาะปอดะ จ.กระบี่ จากนั้นว่ายไปยัง เกาะห้อง จ.กระบี่ และ เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ จ.พังงา และว่ายไปยังเกาะสิเหร่ จ.ภูเก็ต และ ว่ายไปสิ้นสุดที่ท่าเรืออ่าวปอ จ.ภูเก็ต โดยเริมกิจกรรมตั้งแต่เวลาประมาณ 04.00 - 18.00 น.รวม 3 วัน

เส้นทางในการจัดกิจกรรมเป็นพื้นที่รับผิดชอบของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และกรมเจ้าท่า

นายสิรณัฐ สก๊อต อาสาสมัครพิทักษ์ทะเล กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวตนเองและนักว่ายน้ำอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลจะว่ายน้ำ ระยะทางรวม 70 กม.ซึ่งจะเป็นสถิติของประเทศไทยและอาเซียน โดยตนเองจะว่ายเป็นระยะทาง 40 กม.สลับกับนักว่ายน้ำกว่า 36 คนคนละ 3 กม.รวม 30 กม. ซึ่งมีความหลากหลายมากทั้งช่วงอายุและมีทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก 

ทะเล คือ หัวใจ ของประเทศ ทะเล คือหัวใจของคนไทย เพราะเป็นทั้งแหล่งอาหาร แหล่งเศรษฐกิจ และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของไทย ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนช่วยกันอนุรักษ์ หากผมทำสำเร็จก็อยากบอกว่า เป็นความสำเร็จของคนไทย ในการอนุรักษ์ธรรมชาติด้วยเช่นกัน

ขณะที่ นายอรรถพล กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวจะเป็นการกระตุ้นเตือนประชาชนและช่วยสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ธรรมชาติให้ประชาชน ซึ่งเป็นต้นทุนอันมหาศาลและเป็นฐานเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย ซึ่งเห็นว่าเป็นโครงการที่ดีจึงสนับสนุน รวมถึงเป็นการสร้างเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ทำงานกิจกรรมต่าง ๆ ในการดูแล รักษา ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและรักษาสิ่งแวดล้อม ด้วย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง