พริตตี้รับ! โพสต์เรียกกระแส เพิ่งรู้เป่าไฟฉาย ตร.ยันตรวจจริงแต่ไม่ได้ให้เป่า

สังคม
16 เม.ย. 66
15:13
498
Logo Thai PBS
พริตตี้รับ! โพสต์เรียกกระแส เพิ่งรู้เป่าไฟฉาย ตร.ยันตรวจจริงแต่ไม่ได้ให้เป่า
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
พริตตี้สาวที่โพสต์ข้อความตรวจแอลกอฮอล์เกินแต่ ตร.ไม่ดำเนินคดี เข้าขอโทษ ตร. อ้างโพสต์เรียกกระแสแฟนคลับเห็นใจ เพิ่งรู้เป่าไฟฉายไม่ใช่เครื่องวัด ตร.โชว์คลิปผ่านด่านตรวจแค่จุดคัดกรอง ยังไม่ได้ให้เป่า ดำเนินคดี พ.ร.บ.คอมฯ แต่ยอมความให้เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์

วันนี้ (16 เม.ย.266) น.ส.สโรชา หรือ เพชรพลอย พริตตี้ที่โพสต์ข้อความว่า ผ่านด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ของกองบังคับการตำรวจจราจร หลังจากไปทำงานในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านลาดกระบัง ช่วงกลางดึกวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา

ขณะกำลังขับรถกลับที่พักได้ผ่านด่านตรวจโดยที่อ้างว่า เป่าเครื่องตรวจวัดแล้วปริมาณแอลกอฮอล์เกินกำหนด แต่ตำรวจได่ปล่อยตัวไม่ได้เรียกดำเนินคดี

หลังเกิดเหตุทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงการปล่อยปละละเลยของตำรวจและผู้โพสต์

พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบภาพกล้องที่ติดตัวของตำรวจประจำด่าน พบเห็นรถของผู้โพสต์เข้ามาที่ด่านตรวจบน ถ.รามอินทรา ได้ชะลอรถยนต์และเปิดกระจกด้านข้างคนขับ ขณะนั้นตำรวจได้พูดว่า "ขออนุญาตครับ" ก่อนจะส่องไฟฉายมาภายในรถยนต์ จากนั้นก็ขับออกจากรถยนต์ไปโดยใช้เวลาประมาณ 5 วินาที ซึ่งตำรวจมีภาพที่บันทึกระหว่างเกิดเหตุมาแสดงต่อสื่อมวลชน

รอง ผบช.น.ยังบอกว่าตำรวจมีขั้นตอนการตรวจคัดกรองรถยนต์อยู่ 3 ขั้นตอน โดยรถยนต์คันนี้ยังอยู่ในขั้นตอนแรก โดยจะสังเกตจากท่าทาง พิรุธ ของคนขับ ก่อนที่จะตรวจวัดเบื้องต้น หากพบมีแอลกอฮอล์ก็จะเข้าสู่การตรวจวัดในจุดที่ 2 ถึง 3

ยืนยันว่าตำรวจตรวจทุกคนอย่างเสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติว่าเป็นบุคคลใด มีชื่อเสียงหรือไม่ ซึ่งในกรณีนี้ยังไม่มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ตามที่ผู้โพสต์กล่าวอ้างแต่อย่างใด

ขณะที่ ส.ต.อ.ชนินท์ เพิ่มสุข ผู้บังคับหมู่งานตรวจพิสูจน์ผู้ขับขี่ กก.5 บก.จร. ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุ มีรถยนต์ผ่านด่านตรวจจำนวนมาก และจำไม่ได้ว่ารถของผู้โพสต์เป็นคันใด ซึ่งก็เป็นเพียงในขั้นตอนของการคัดกรองรถเท่านั้น 

ยอมรับว่า หากมีพิรุธจริง หรือเข้าข่ายที่จะต้องตรวจเพิ่มก็จะมีกลิ่นแอลกอฮอล์ออกมาจากรถ
หรือผู้ขับขี่จะมีอาการท่าทางเมาแสดงออกมา แต่หากไม่มีก็จะปล่อยผ่านด่านออกไป

ด้าน น.ส.สโรชา ยอมรับว่า ได้ดื่มแอลกอฮอล์ในงานมาเล็กน้อยเท่านั้น และไม่ได้มีอาการเมา และที่โพสต์ไปเพราะเป็นการขอบคุณเจ้าของร้าน และคนที่พาไปทำงาน ซึ่งเป็นปกติที่จะโพสต์หลังเสร็จงานทุกครั้ง แต่ครั้งนี้มีการโพสต์เกี่ยวกับเรื่องด่านตรวจไปด้วย

ต้องการให้แฟนคลับและผู้ติดตามในเฟสบุ๊กเห็นใจว่าไปทำงานมา โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา

ซึ่งในขณะที่ขับรถผ่านด่านก็มีตำรวจเรียกตรวจจริง และมีไฟฉายส่องเข้ามาในรถ โดยที่ไม่แน่ใจว่าเป็นเครื่องเป่าแอลกอฮอล์หรือไม่ จึงได้เป่าไป แต่ยืนยันว่าไม่ได้ถูกเรียกตรวจจนปริมาณแอลกอฮอล์เกินกำหนดตามที่โพสต์ไป พร้อมกับขอโทษทุกฝ่ายที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย

ขณะที่ตำรวจได้พิจารณาข้อความที่โพสต์แล้ว ถือว่าเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.การกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 นำเข้าข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่ พล.ต.ต.จิรสันต์ ระบุว่า การกระทำดังกล่าวของผู้โพสต์เมื่อได้เรียกตัวมาสอบถามถึงพฤติการณ์แล้วพบว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ และไม่มีเจตนา พร้อมกับได้เข้ามาขอโทษตำรวจแล้ว

ตำรวจในฐานะผู้เสียหายจึงไม่ติดใจดำเนินคดี เนื่องจากเป็นคดีที่สามารถยอมความกันได้

พร้อมกับเตือนประชาชน ในการโพสต์ข้อความผ่านทางออนไลน์ ที่มีผลกระทบถึงบุคคลอื่น ขอให้คำนึงถึงผลกระทบที่อาจจะตามมา ซึ่งกรณีนี้ถือว่าเป็นบทเรียนที่จะทำให้ผู้อื่นระมัดระวังในการโพสต์ข้อความต่างๆ เป็นอย่างดี

อ่านข่าวเพิ่ม :

บช.น.เตรียมชี้แจง โพสต์พริตตี้เมาแล้วขับ ผ่านด่านตรวจไม่ถูกดำเนินคดี

7 วันอันตรายสงกรานต์ 5 วัน ตาย 197 เจ็บ 1,738

ข่าวที่เกี่ยวข้อง