ไขปริศนาเหตุคนทั้งเมืองสูญหาย จากการระเบิดของภูเขาไฟวิสุเวียส เมื่อ 2,000 ปีก่อน

Logo Thai PBS
ไขปริศนาเหตุคนทั้งเมืองสูญหาย จากการระเบิดของภูเขาไฟวิสุเวียส เมื่อ 2,000 ปีก่อน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
นักวิทย์เผยชะตากรรมของชาวเมืองเฮอร์คิวเลเนียม ผู้เคราะห์ร้ายจากการระเบิดของภูเขาไฟ "ภูเขาไฟวิสุเวียส" (Mount Vesuvius) เมื่อ 2,000 ปีก่อน พร้อมเสนอแนวทางรับมือภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ย้อนกลับไปเมื่อ ค.ศ. 79 หรือเมื่อประมาณเกือบ 2,000 ปีที่แล้ว "ภูเขาไฟวิสุเวียส" (Mount Vesuvius) ซึ่งตั้งอยู่บนผืนแผ่นดินของอาณาจักรโรมัน บริเวณทางตะวันออกของคาบสมุทรเนเปิลส์ (Naples) ได้เกิดการปะทุครั้งใหญ่ และได้คร่าชีวิตผู้คนในเมืองปอมเปอี (Pompeii) อันโด่งดังไปหลายหมื่นคน แต่ทว่าเมืองเฮอร์คิวเลเนียม (Herculaneum) ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงนั้น กลับแทบไม่มีซากโครงกระดูกของมนุษย์หลงเหลืออยู่ภายในเมืองเลย ซึ่งเป็นปริศนามาอย่างยาวนาน

และมีเพียงแต่ร่องรอยซากโครงกระดูก 300 ศพ ที่หลงเหลืออยู่ในซากโรงเรือนเก่าใกล้ชายหาดของเมืองเท่านั้น โดยทีมนักวิจัยเผยในวารสาร Nature ฉบับล่าสุดเดือนเมษายน ค.ศ. 2023 ว่า ผู้เสียชีวิตภายในเมืองเฮอร์คิวเลเนียม กว่า 5,000 คนหายไปจนแทบไม่มีซากหลงเหลือมาจนถึงทุกวันนี้ เนื่องจากอาจถูกคลื่นความร้อนเผาไหม้กลายเป็นจุณไปในทันที ผ่านปรากฏการณ์ที่นักวิทย์เรียกว่า Pyroclastic Density Currents หรือ PDCs

ในขณะที่ในเมืองปอมเปอีนั้น นักโบราณคดีได้ค้นพบซากโครงกระดูกเป็นจำนวนเกือบ 2,000 ศพในสภาพดี ซึ่งศพแต่ละศพถูกฝังกลบด้วยเถ้าถ่านภูเขาไฟที่แข็งตัวกลายเป็นหิน แต่ทว่าภายในเถ้าถ่านภูเขาไฟนี้กลับมีช่องว่างระหว่างโครงกระดูกโล่ง ๆ อยู่ ซึ่งเกิดจากการที่เนื้อเยื่อมนุษย์สลายตัวไปตามกาลเวลา จึงทำให้นักโบราณคดีสามารถเทปูนปลาสเตอร์ลงไปเติมเต็มช่องว่างภายในหิน เพื่อเผยให้เห็นสภาพเสื้อผ้าและร่างกายของผู้เคราะห์ร้ายในขณะที่เสียชีวิตได้

โดยกลุ่มนักวิจัยที่ศึกษาชะตากรรมของผู้คนในเมืองเฮอร์คิวเลเนียมได้ทำการวิเคราะห์เศษซากปรักหักพังจากไม้ที่กลายเป็นเถ้าถ่านเพิ่มเติมเป็นครั้งแรก จนพบว่าชุมชนนี้ตั้งอยู่บริเวณเนินภูเขาไฟนั้นถูกคลื่นความร้อน PDCs ที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 550 องศาเซลเซียสเข้ามาปะทะ และเมื่อคลื่นความร้อน PDCs เดินทางสู่ที่ต่ำลงไปยังบริเวณชายหาดที่มีน้ำทะเล อุณหภูมิได้ลดลงเหลือประมาณ 400 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ว่า ทำไมถึงมีซากโครงกระดูกหลงเหลืออยู่เพียงแค่ในบริเวณนี้เท่านั้น

นอกจากที่งานวิจัยชิ้นนี้จะช่วยไขปริศนาทางประวัติศาสตร์แล้ว ก็จะยังสามารถช่วยส่งเสริมการวางแผนอพยพจากเหตุการณ์ภูเขาไฟปะทุในปัจจุบันด้วย ผ่านการออกแบบศูนย์อพยพที่ต้องมีศักยภาพในการป้องกันความร้อนมากกว่า 550 องศาเซลเซียสได้ เนื่องจากภูเขาไฟวิสุเวียสนั้นเป็นภูเขาที่ไม่สงบซึ่งสามารถปะทุได้ตลอดเวลา โดยทุกวันนี้มีผู้คนอาศัยอยู่ในระยะอันตรายของภูเขาไฟวิสุเวียส จำนวนกว่า 700,000 คน

ที่มาข้อมูล: Big ThinkNature
ที่มาภาพ: Sony Picture
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech

ข่าวที่เกี่ยวข้อง