เลือกตั้ง2566 : "นฤมล" หวัง "พปชร." คว้า ส.ส.กรุงเทพฯ 12 เก้าอี้เท่าปี 62

การเมือง
2 พ.ค. 66
14:58
198
Logo Thai PBS
เลือกตั้ง2566 : "นฤมล" หวัง "พปชร." คว้า ส.ส.กรุงเทพฯ 12 เก้าอี้เท่าปี 62
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"นฤมล" ลุยหาเสียงเขตบางซื่อ มั่นใจ ปชช.เลือกคนพื้นที่ รู้ปัญหา ทำงานเป็น เชื่อ คนไทย ยังตัดสินใจเลือกผู้แทนฯจากนโยบายพรรค ไม่ใช่ อนุรักษ์นิยมหรือเสรีนิยม

วันนี้ (2 พ.ค.2566) พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำโดย นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ลงพื้นที่เขตบางซื่อ เพื่อช่วย ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางซื่อ - ดุสิต กทม.หมายเลข 12 พรรคพลังประชารัฐ เดินรณรงค์หาเสียง โดยได้พบปะประชาชนชุมชนวัดเชิงหวายเพื่อเยี่ยมชมวิถีชีวิตชาวบ้าน รวมถึงพูดคุยกับพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอยบริเวณตลาดเตาปูน ซึ่งเป็นตลาดที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในเขตบางซื่อ

ระหว่างการลงพื้นที่ประชาชนได้สอบถามถึงนโยบายสวัสดิการผู้สูงอายุ และราคาพลังงานที่พรรคพลังประชารัฐได้ประกาศว่าจะมีนโยบายช่วยเหลือประชาชน

นฤมล กล่าวกับประชาชนในพื้นที่ว่า ประชาชนก็สอบถามถึงปัญหาเรื่องค่าครองชีพ ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ เดินหน้าหาเสียงเพื่อสร้างความเข้าใจกับชาวบ้านเกี่ยวกับนโยบายของพรรค พปชร.ซึ่งวันนี้ที่เราลงพื้นที่ได้พบกับผู้สูงอายุจำนวนมากที่พักผ่อนอยู่ที่บ้าน

โดยส่วนใหญ่พอใจกับนโยบายของพรรคในเรื่องสวัสดิการผู้สูงอายุ ที่จะทำอย่างต่อเนื่องไปตลอดทันทีที่เข้าไปเป็นรัฐบาลบริหารประเทศแน่นอน ไม่ใช่ทำเพียงแค่เดือนเดียวอย่างที่ประชาชนในพื้นที่กังวล

ช่วงหาเสียงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ในส่วนพื้นที่ กทม.ผู้บริหารพรรคก็แยกกันลงแต่ละพื้นที่เพื่อช่วยผู้สมัครหาเสียง โดยจะต้องเน้นย้ำถึงนโนบายที่จะดูแลผู้ประกอบการ ผู้ทำธุรกิจ ซึ่งมีชุดนโยบายอยู่แล้วแต่อาจจะไม่ได้ประชาสัมพันธ์มากนัก รวมถึงพ่อค้า แม่ค้า ผู้ประกอบการรายย่อยหรือ sme โดย พรรค พปชร.มีนโยบายที่จะเข้าไปสนับสนุนแหล่งเงินทุนเพื่อที่จะต่อยอดทางธุรกิจได้

นฤมล กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้บริหารและผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐจะทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติและประชาชนให้ดีที่สุด และเคารพการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน แต่ก็หวังว่าจะได้รับความเมตตาให้โอกาสเลือกตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐอย่างน้อยก็ 12 ส.ส.ใน กทม.ซึ่งเป็นจำนวนที่เท่ากับการเลือกตั้งเมื่อปี 62

ก็ต้องขอฝากผู้สมัครคุณภาพของเรา อย่างเช่นในเขตบางซื่อ ก็มี "ร.ต.อ.วัฒนรักษ์" ที่อาจจะเคยสังกัดกับพรรคการเมืองอื่น แต่วันนี้เชื่อมั่นในนโยบายของพรรคพลังประชารัฐรวมถึงแนวทางของพรรค

ทั้งนี้ผู้สมัคร พรรคพลังประชารัฐ พร้อมรับใช้ประชาชนในทุกเขต ทุกพื้นที่ โดยผู้สมัครของเรามีศักยภาพทุกคน และผู้บริหารพรรคก็พร้อมผลักดันให้เกิดขึ้นจริง และพร้อมทำทันที

ทั้งนี้ นฤมล ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนถึงกรณีการเลือกตั้งในขณะนี้ที่หลายฝ่ายมองว่า เป็นการเลือกแบบแบ่งขั้วทางการเมืองระหว่างอนุรักษ์นิยม-เสรีนิยม ว่า ตนเชื่อว่า อย่างประชาชนในพื้นที่ กทม.เขาไม่ได้คิดว่าเขาอยู่ฝ่ายไหน ทุกคนไม่ได้อยากถูกตีตราว่าอยู่ฝ่ายไหน คำว่าอนุรักษ์นิยม หรือ เสรีประชาธิปไตย น่าจะใช้กับกลุ่มคนที่มีอายุเกิน 55 ปีขึ้นไปแล้ว ที่ยังเชื่อว่า ประชาชนถูกตีกรอบและตัดสินเช่นนั้น

เชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศยังเลือกผู้สมัครและพรรคการเมืองโดยดูจากอุดมการณ์ที่ว่าเขาจะทำอะไรให้กับพี่น้องประชาชน เขาคงไม่ชอบที่จะมาบอกว่า ให้เขาอยู่ฝ่ายไหน ว่าจะเลือกเพราะอยู่ฝ่ายนั้น ฝ่ายนี้การตัดสินใจลงคะแนนในคูหานั้น

นอกจากนี้ ยังเชื่อว่า คนไทยจะพิจารณาว่า พรรคการเมืองไหนที่สามารถตอบโจทย์แก้ปัญหาเศรษฐกิจ แก้ปัญหาความไม่มั่นคงหรือไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองได้ เขาก็จะให้โอกาสพรรคนั้น เพราะฉะนั้นพรรคพลังประชารัฐก็จะเดินหน้าในแนวทางนี้

ถ้าเลือกเราสิ่งที่ท่านจะได้ก็คือ การแก้ปัญหา ฟื้นฟูเศรษฐกิจ และได้เสถียรภาพทางการเมือง เพราะถ้าการเมืองนิ่งเศรษฐกิจก็จะสามารถวิ่งไปได้

ด้าน ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวถึงความมั่นใจในพื้นที่ว่า ตนลงพื้นที่เขตบางซื่อมากว่า 13 ปี ได้สัมผัสกับชาวบ้าน เราได้ทำกิจกรรมรวมถึงผ่านปัญหาต่าง ๆ มาด้วยกัน ซึ่งตนเกิดและโตที่เขตนี้ เพราะฉะนั้นความผูกพันจากชาวบ้านมีมากอยู่แล้ว

อีกทั้งตนเชื่อมั่นว่า ทุกนโยบายของพรรคพลังประชารัฐทำได้จริงและสามารถทำได้ทันที โดยเฉพาะเรื่องนโยบายเกี่ยวกับราคาพลังงาน เพราะถือว่าเป็นเรื่องสำคัญของประชาชน เนื่องจากหากราคาพลังงานลดลง ก็จะเป็นการลดภาระของประชาชน และธุรกิจต่าง ๆ ก็สามารถเติบโตได้เช่นกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง