วิเคราะห์ : “2 ลุง 1 หนู” สู้ต่ออย่างไร

การเมือง
1 มิ.ย. 66
15:32
895
Logo Thai PBS
วิเคราะห์ : “2 ลุง 1 หนู” สู้ต่ออย่างไร
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
แม้ขั้วฝ่ายรัฐบาลเดิม จะมีเสียงรวมกับพรรคอื่นที่ไม่ใช่ 8 พรรคร่วมตั้งรัฐบาล 187 เสียง แต่เพราะตามรัฐธรรมนูญปี 2560 กำหนดให้ ส.ว.มีหน้าที่โหวตเลือกนายกฯ ร่วมกับ ส.ส. ทำให้หากมีเสียง ส.ว.โหวตหนุนนายกฯ จากขั้วรัฐบาลเก่า จะทำให้มีเสียงรวมกันถึง 437 เสียง

กรณีไม่แตกแถวเลย เสียงจะเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา แต่จะมีเสียงในสภาผู้แทนราษฎรมีไม่เกินกึ่งหนึ่ง หากดันทุรังจัดตั้ง จะกลายเป็น “รัฐบาลเสียงข้างน้อย” ในสภา มีปัญหาเรื่องเสถียรภาพทันที

แต่ระหว่างการเดินหน้าตั้งรัฐบาลของ 8 พรรคการเมือง ยังมีข้อจำกัด ทั้งมีด่านหินขวางกั้นข้างหน้าอยู่หลายด่าน รวมทั้งด่าน ส.ว.และปมถือหุ้นไอทีวี ทำให้กูรูการเมืองหลายคนฟันธงว่า มีโอกาสเพียง 50-50 ที่จะตั้งรัฐบาลสำเร็จ

ประกอบกับเรื่องตั้งรัฐบาลใหม่ ไม่ได้กำหนดกรอบเวลาไว้ในรัฐธรรมนูญว่า ต้องแล้วเสร็จในกี่วัน เพียงมีกรอบเวลาของ กกต.ต้องรับรอง ส.ส.ภายใน 60 วัน นับจากวันเลือกตั้ง

จากนั้นต้องเปิดประชุมสภาภายใน 15 วัน เพื่อเลือกประธานและรองประธานสภาฯ กว่าจะถึงวันประชุมรัฐสภา โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ต้องยืดเยื้อมาก เร็วที่สุด 2 เดือนขึ้นอยู่กับ กกต.จะรับรองส.ส.ได้ 95 เปอร์เซ็นต์เร็วที่สุดขนาดไหน ทำให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง ที่อาจเกิดอะไรขึ้นได้ทุกเมื่อ

ต้องไม่ลืมว่า ส.ส.ได้รับเอกสิทธิคุ้มครองในการโหวตออกเสียงตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ไม่ต้องเป็นตามมติพรรคก็ได้ และไม่เป็นเหตุผลสำหรับใช้ขับ ส.ส.ออกพรรคได้ ประกอบกับรัฐบาลรักษาการระหว่างรอรัฐบาลใหม่ ยังเป็นรัฐบาลชุดเดิม ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ทำให้ FC ในสายอนุรักษ์นิยม โดยเฉพาะแฟนพันธุ์แท้ “ลุงตู่” ส่วนหนึ่ง ยังแอบหวังลึกๆ ว่า การตั้งรัฐบาลอาจพลิกผัน เปลี่ยนขั้วได้ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์อาจได้ไปต่อ แต่จะไปต่อได้จริงหรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

พล.อ.ประยุทธ์ แคนดิเดตนายกฯ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ มี ส.ส.เพียง 36 คน มากเป็นอันดับ 5 แต่ถ้านับเฉพาะขั้วรัฐบาลเดิม อยู่อันดับ 3 รองจากพรรคภูมิใจไทย และพรรคพลังประชารัฐ ถือว่าต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ ทำให้โอกาสที่ พล.ประยุทธ์ จะไปต่อทางการเมืองดูยากมาก

ไม่ว่าเจ้าตัวยังอยากไปต่อหรือไม่ “เพราะยังไม่เคยเอ่ยปากแสดงความยินดี” กับผู้ชนะเลือกตั้งอย่างเป็นทางการเลย

นอกจากคำกล่าวในการแถลงข่าว 16 พฤษภาคม ที่กล่าวเพียงว่า “ยินดีกับทุกพรรคที่ได้รับคะแนนจากประชาชน” และยังตอบคำถามสื่อที่ถามต่อว่า เมื่อผลออกมาแบบนี้ จะถอยหลังจากการเมือง หรือจะช่วยงานพรรครวมไทยสร้างชาติต่อ โดยตอบสั้นก่อนเดินหนีว่า ว่า โน คอมเมนต์

แม้จะมีข่าวบนหน้าสื่อน้อยลง ด้วยคนหันไปสนใจเรื่องตั้งรัฐบาลมากกว่า แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ยังย้ำเรื่องทำงานให้กับประชาชนให้ดีที่สุดในช่วงเวลาเหลืออยู่ และกระนั้น ยังไม่วายตอบโต้กระทุ้งใส่ขั้วรัฐบาลใหม่ทุกครั้งที่โอกาส

ล่าสุดคือเรื่องตั้งคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล โดย 8 พรรครัฐบาล เพื่อให้การทำงานต่อจากรัฐบาลเดิมไม่สะดุด โดยย้ำว่า ไม่เห็นด้วยหากจะขอข้อมูลจากข้าราชการ เพราะขณะนี้ยังไม่ได้เป็นรัฐบาล ข้าราชการจะอึดอัด จึงเป็นเรื่องไม่เหมาะสม และในทางปฏิบัติ แต่ละกระทรวงจะสรุปส่งมอบงานที่ทำและยังค้างอยูให้กับรัฐบาลใหม่อยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ และจะมีผลต่อการตั้งรัฐบาลใหม่อย่างยิ่ง คือ “สัญญาณเรื่องโหวตเลือกนายกฯ” ที่จะส่งต่อไปยัง ส.ว.ที่ตั้งมากับมือ จะเป็นไปในลักษณะใด ปล่อยฟรีโหวตหรือไม่ ยังต้องลุ้นกัน

ส่วน “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มักมีชื่ออยู่ในข่าว แต่หาที่มาที่ไปหรือระบุชื่อคนที่พูดไม่ได้ คือจะเป็นตัวแปรสำคัญของการตั้งรัฐบาลของจริง โดยเฉพาะเรื่อง “ดีลลับ” กับพรรคเพื่อไทยที่ปฏิเสธอย่างไรคนก็ไม่เชื่อ

นอกจากมีเสียง ส.ส.ของพรรคอยู่ในมือ 40 คนแล้ว ยังมีเสียง ส.ว.บางส่วนอย่างน้อยอีก 50-60 คนด้วย สามารถเติมเต็มเสียงโหวตเลือกนายกฯ ให้กับขั้วใดหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้ และเท่ากับรับประกันระดับหนึ่งว่า การขับเคลื่อนงานสภา จะไม่สะดุด “ตอ” จนไปต่อไม่ได้ทุกเรื่อง

ล่าสุดเดินสายไปขอบคุณประชาชนที่ จ.กำแพงเพชร เพราะเลือก ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ แบบยกจังหวัดได้ สิ่งที่น่าจับตาต่อไป คือหากได้ไปต่อ จะไปต่อในการตั้งรัฐบาลครั้งนี้ แต่อาจเป็นสูตรใหม่ “ลุงป้อม” จะอยู่ในสถานะใดในสมการดังกล่าว

หรือหากไม่ไปต่อ หรือเลือกจะอยู่หลังฉาก จะจัดสรรและรักษาลูกพรรค โดยเฉพาะบรรดาคนดังและคนบ้านใหญ่ที่ไม่ได้เป็นแม้แต่ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่ออย่างไร ตั้งแต่นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค กระทั่งแกนนำคนอื่น ๆ

แต่คนที่ดูสบายๆ กว่าใครเพื่อน คือนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แม้จับพลัดจับผลู โดนโยงเรื่องดีลลับที่สนามสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ ในอังกฤษ จนต้องโพสต์ภาพพร้อมภรรยาคู่ใจ แจกแจงไม่ใช่ “ดีลลับ” แต่เป็น “ดีลรัก” แล้ว

ช่วงนี้อาจไม่ต้องรีบร้อนอะไร สามารถพักผ่อนอยู่ต่างประเทศได้สบายๆ เพราะถึงอย่างไร ย่อมมีโอกาสเป็น “ตัวแปร” สำคัญสำหรับการตั้งรัฐบาลมากกว่าพรรคอื่น หากพรรคก้าวไกลทำได้ไม่สำเร็จ

แม้จะมีตั้งเงื่อนไขไว้ก่อนหน้านี้ว่า 1.จะร่วมกับพรรคที่พร้อมสนับสนุนนโยบายกัญชาเสรีของพรรคภูมิใจไทย และ 2.จะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคที่จะแก้มาตรา 112

ในสมการตั้งรัฐบาลขณะนี้ แม้นายอนุทินจะวงนอก แต่ “ซินแส” หลายคนกลับบอกว่าโหวเฮ้งดี มีราศีจับ นอกจากลัคกี้อินเลิฟในช่วงเดินสายหาเสียงช่วงเลือกตั้งแล้ว อาจลัคกี้อินเกม ในทางการเมืองควบคู่ด้วยก็เป็นได้

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง