วันนี้ (16 มิ.ย.2568) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน เปิดเผยถึง สถานการณ์แรงงานกัมพูชาที่ทำงานในไทย ประมาณ 500,000 คน โดยมีทั้งแรงงานถูกกฎหมายประมาณ 400,000 คน และผิดกฎหมายประมาณ 20,000 คน ขณะเดียวกัน มีแรงงานไป-กลับ ที่เข้ามาเก็บผลไม้ตามฤดูกาลใน จ.จันทบุรี ระยอง และ ตราด ประมาณ 20,000 คน ซึ่งแรงงานส่วนนี้ เป็นแรงงานที่รัฐบาลกัมพูชาต้องการจะขอคืน จึงไม่ส่งกระทบกับธุรกิจในไทย
โดยกระทรวงแรงงาน ได้ประชุมหารือกับสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย และสอบถามถึงสถานการณ์แรงงานกัมพูชา โดยได้รับการยืนยัน จากเจ้าของสถานประกอบการว่า ขณะนี้ยังไม่มีแรงงานกัมพูชา ยื่นความจำนงขอกลับประเทศ
ไม่มีใครอยากกลับว่างั้นเถอะ คือ ยังอยากอยู่ในประเทศไทย และกระทรวงแรงงาน ขอยืนยัน เราจะไม่มีการผลักดันแรงงานกัมพูชากลับประเทศ ถ้าหากใครสมัครใจที่จะเดินทางกลับ เราก็ยินดี ไม่ขัดขวาง
ส่วนแรงงานกัมพูชาที่พาสปอร์ตหมดอายุ และไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไปทำพาสปอร์ตใหม่ได้ กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานจะต่ออายุให้ได้อีก 1 ปี จึงขอให้ผู้ประกอบการสบายใจ ว่าปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ส่งผลกระทบต่อแรงงานกัมพูชา
ด้านการทำ MOU จัดส่งแรงงานกัมพูชามาทำงานในประเทศไทย เพิ่งดำเนินการเซ็นสัญญาต่อเมื่อช่วงเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา โดยมีระยะเวลา 2 ปี และยังไม่มีแผน MOU ใหม่ และถึงแม้จะมีการปิดชายแดน 100% ระหว่าง 2 ประเทศ รมว.แรงงาน เชื่อว่า จะไม่กระทบกับไทยแน่นอน ซึ่งหากแรงงานกัมพูชาต้องการกลับประเทศ ก็สามารถทำได้ตามสิทธิ
โดยยืนยัน ไทยยังมีสัญญาการจ้างงานแรงงานกัมพูชาที่มีระยะเวลา 2 ปี ซึ่งกัมพูชาจะต้องทำตามสัญญา ส่วนแรงงานเก็บผลไม้ตามฤดูกาล ขณะนี้ไม่ใช่ช่วงที่มีการเก็บอ้อย หรือเก็บผลไม้ที่ต้องใช้แรงงานจำนวนมาก โดยมีแรงงานเก็บผลไม้ปัจจุบันเพียงพออยู่
ส่วนระยะยาว หากแรงกัมพูชากลับประเทศทั้งหมด ก็เชื่อว่า จะมีแรงงานเมียนมาและประเทศในเอเชียใต้ ที่สามารถทดแทนได้ โดยปัจจุบันกำลังรอต่ออายุใบอนุญาตทำงานแรงงานเมียนมา ประมาณ 1,800,000 คน และกำลังเข้า CI หรือรอขึ้นทะเบียน อีกกว่า 1,000,000 คน ซึ่งแรงงานกลุ่มนี้กำลังรอหางาน จึงเชื่อว่า แรงงานส่วนนี้จะทดแทนแรงงานกัมพูชาได้
"ไม่ต้องห่วงครับ ประเทศกลุ่มเอเชียใต้มีประสานทางกระทรวงแรงงานเรามาหลายประเทศแล้ว ที่จะขอมา MOU กับกระทรวงแรงงาน ขอเอาแรงงานเข้ามาทำงานในไทย ซึ่งขณะนี้กระทรวงแรงงานรับข้อมูลเอาไว้ แต่ยังไม่ได้เอาเรื่องเข้าหารือใน ครม. เพราะเราคิดว่ามันยังไม่มีความจำเป็น เพราะแรงงาน 4 ประเทศ ที่เรา MOU อยู่แล้วเพียงพอต่อการใช้แรงงานในประเทศ แต่หากว่าขาดแคลนแรงงานประเทศใดประเทศหนึ่ง โดยเฉพาะแรงงานประมง ก็มีแรงงานบังกลาเทศ ที่แจ้งความจำนงมาทำงานในไทย"
อ่านข่าว :
กต.แถลงผล JBC ผิดหวังไม่ได้ถก 4 พื้นที่พิพาท ย้ำไม่รับแผนที่ 1:200,000
"สธ." มั่นใจผู้ป่วยกัมพูชายังเลือกใช้ รพ.ไทย
"ฮุน เซน" กดดันไทยเปิดด่านเต็มรูปแบบ ขู่ปิดทุกด่าน-แบนสินค้า