จากกรณีที่ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาได้โพสต์ข้อความผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยเรียกร้องให้แรงงานชาวกัมพูชาเดินทางกลับประเทศ
แรงงานชาวกัมพูชา ยืนยันรับจ้างเก็บผลไม้ใน จ.ตราด ต่อไป
จากการสอบถาม แรงงานกัมพูชาที่ทำงานเก็บผลไม้ ใน จ.ตราด หลายคนบอกว่า เดินทางมาจากเมืองพระตะบอง ประเทศกัมพูชา เข้ามาทำงานรับจ้างเก็บผลไม้ในสวนนานหลายปีแล้ว รายได้แต่ละคนไม่ต่ำกว่าเดือนละ 15,000 บาท บางครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีรายได้ส่งกลับไปให้ครอบครัวทุกเดือนหากต้องกลับประเทศก็ไม่มั่นใจว่าจะมีรายได้และสวัสดิการดีเหมือนที่ประเทศไทยหรือไม่

นายวุฒิพงศ์ รัตนมณฑ์ นายกสมาคมชาวสวนผลไม้ จ.ตราด ระบุว่า แรงงานกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในพื้นที่เป็นแรงงานถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนใหญ่ทำงานในภาคเกษตรมีทั้งรับจ้างรายปี และเข้ามาทำงานชั่วคราว ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิต จนถึงขณะนี้ยังไม่พบสวนผลไม้ในพื้นที่ ประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานกัมพูชา แต่ก็มีแผนรับมือไว้แล้ว

"พิพัฒน์" ยืนยัน ยังไม่พบแรงงานกัมพูชายื่นขอกลับประเทศ
ขณะที่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ระบุว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีแรงงานกัมพูชาในสถานประกอบการ ยื่นความจำนงขอกลับประเทศโดยแรงงานที่รัฐบาลกัมพูชาต้องการจะขอคืน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานที่เดินทางไป-กลับ เพื่อเก็บผลไม้ตามฤดูกาล

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน
ขณะที่ไทยนำเข้าแรงงานกัมพูชา ทั้งหมด 500,000 คน และต้องต่ออายุทำงานทุก 2 ปี ล่าสุด เพิ่งเซ็นสัญญาไปเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา กรณีการเรียกกลับแรงงานกัมพูชา เชื่อว่า สามารถจัดหาแรงงานชาติอื่นทดแทนได้
พณ.จับตาการค้าชายแดน 5 ด่านหลัก หากกัมพูชาปิดด่าน
ด้าน อารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ระบุว่า ขณะนี้ อยู่ระหว่างการจับตาสถานการณ์การค้าชายแดนไทย - กัมพูชา หลังกัมพูชา ระบุ จะปิดด่านพรมแดนทั้งหมด หากไทยไม่ยอมเปิดด่าน โดยเตรียมหารือกับภาคเอกชนเพื่อหาแนวทางรับมือ หากสถานการณ์รุนแรง

อารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ
อารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ระบุว่า ที่ผ่านมา การค้าหลักจะผ่านด่านศุลกากรสำคัญ 5 ด่านหลัก ได้แก่ ด่านศุลกากรอรัญประเทศ จ.สระแก้ว, ด่านศุลกากรคลองใหญ่ จ.ตราด, ด่านศุลกากรจันทบุรี, ด่านศุลกากรช่องจอม จ.สุรินทร์ และด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ

ด่านศุลกากรที่มีมูลค่าการค้ามากที่สุด ได้แก่ ด่านศุลกากรอรัญประเทศ ปี 2567 มีมูลค่าการค้ากว่า 110,000 ล้านบาท ขณะที่ ปี 2568 ช่วง 4 เดือนแรก มีมูลค่ากว่า 40,000 ล้านบาท รองลงมา เป็นด่านศุลกากรคลองใหญ่ มีมูลค่าการค้ากว่า 29,000 ล้านบาท และด่านศุลกากรจันทบุรี มีมูลค่ากว่า 26,000 ล้านบาท โดยทั้ง 3 ด่าน มีสัดส่วนการค้าถึงร้อยละ 95.5 ประเมินว่า หากปิดด่านอาจกระทบต่อมูลค่าการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ในปี 2567 ไทยและกัมพูชา มีมูลค่าการค้า รวมกว่า 174,000 ล้านบาท
อ่านข่าว : ยังไม่มีแรงงานกัมพูชาขอกลับประเทศ "พิพัฒน์" ยันมีแผนรองรับ
"ฮุน เซน" กดดันไทยเปิดด่านเต็มรูปแบบ ขู่ปิดทุกด่าน-แบนสินค้า
กต.แถลงผล JBC ผิดหวังไม่ได้ถก 4 พื้นที่พิพาท ย้ำไม่รับแผนที่ 1:200,000