วันนี้ ( 1 ก.ค.2568) นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และนายกสมาคมการค้าอาหารอนาคตไทย กล่าวกับ “ไทยพีบีเอสออนไลน์” ถึงการปรับหน้าตาของคณะรัฐมนตรีใหม่ หรือครม. แพทองธาร 2 รวมถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ ว่า คงต้องให้โอกาส เพราะครม.2 มีคนรุ่นใหม่หลายคน ถือว่าดีที่มีคนเจนใหม่ๆเข้ามาช่วยทำงานก็ต้องให้โอกาสพิสูจน์ฝีมือว่าจะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ขณะนี้อย่างไร
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และนายกสมาคมการค้าอาหารอนาคตไทย
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และนายกสมาคมการค้าอาหารอนาคตไทย
ในส่วนของรมว.พาณิชย์คนใหม่ที่มีดีกรีปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเชื่อว่าจะมาสานต่องานเจรจาที่ค้างไว้ โดยเฉพาะการเจรจาเรื่องภาษีสหรัฐฯ ที่เอกชนกังวลว่าผลของการเจรจาจะเป็นไปในทิศทางใด รวมถึงเรื่องการเจรจาเอฟทีเอฉบับต่างๆที่ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ หวังว่ารมว.ใหม่จะเร่งดำเนินการเพื่อผลักดันการส่งออกในครึ่งปีหลังให้เดินหน้าต่อ
ตอนนี้ทั้งกังวล และลุ้น คือ ผลการหารือกับสหรัฐฯเรื่องภาษี ว่าจะออกมาทิศทางใด เพราะยังไงสหรัฐฯยืนพื้นเก็บภาษี10% ทุกประเทศ แต่เจรจากับไทยรอบนี้หวังว่าภาษีที่สหรัฐฯจะเรียกเก็บจากไทย ต้องไม่สูงกว่า คู่แข่ง หรือดีทีสุด เท่ากับคู่แข่ง เพราะจะทำให้ไทยสามารถแข่งขันได้ แต่ถ้าการเจรจาออกมาในทิศทางที่ดีมาก คือ โดนเก็บภาษีต่ำกว่าคู่แข่ง จะช่วยให้การส่งออกไทยกลับมามีทิศทางที่ดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
ส่วนกรณีที่วันนี้ (1 ก.ค.68) ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องกรณีที่นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ยื่นคำร้องของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นนายกรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลง หรือไม่นั้น ก็ต้องมาดูว่ากระทบกับการทำงานของรัฐบาลมากน้อยอย่างไร แต่เชื่อว่าจะมีผล กระทบไม่มากทุกอย่างยังอยู่ในประชาธิปไตย
แต่สิ่งที่กังวล คือ การเจรจาต่างๆกับต่างประเทศมากกว่า เพราะปกติจะเป็นรัฐบาลที่มีอำนาจการเจรจาเรื่องต่างๆ แต่หากศาลฯตัดสินนมาในทิศทางใดทิศทางหนึ่งก็อาจจะกระทบกับการเจรจา แต่เชื่อว่าผลกระทบจะเกิดขึ้นเพียงระยะสั้นเท่านั้น
มองในระยะสั้น คือ งานเจรจากับสหรัฐฯต้องผ่านไปให้ได้ก่อน ส่วนระยะกลาง-ยาวก็หวังว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะมีความสเถียรภาพมากขึ้น เอกชนพร้อมทำงานร่วมกับรัฐบาล และรมว.พาณิชย์คนใหม่และเชื่อว่าจะบูรณาการไปในทิศทางที่ดีในช่วงภาวะเศรษฐกิจขาลงเช่นนี้ รมว.ใหม่เข้ามาต้องทำงานต่อทันคงไม่มีช่วงเวลาฮันนีมูนเพราะงานด่วนรออยู่อีกมาก
อย่างไรก็ตามต้องให้โอกาสครม.ใหม่ เพระเชื่อว่าไม่ว่าใครจะเข้ามาบริหารประเทศ คงทราบว่าปัญหาใหญ่ในขณะนี้ คือ เศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้น โดยเฉพาะการส่งออก ภาคการท่องเที่ยวที่รอให้รัฐบาลออกนโยบายกระตุ้นหรือแนวทางการรับมือที่ดีที่สุด
อ่านข่าว:
เศรษฐกิจไทยครึ่งหลังเสี่ยงสูง เกียรตินาคินภัทรฯ หั่นจีดีพีเหลือ 1.6%
"จุลพันธ์" เผยทีมเจรจาภาษีสหรัฐฯ เดินทางคืนนี้ ทันกรอบเวลา
สารพัดปัจจัยเสี่ยงฉุดเศรษฐกิจ ม.หอการค้าฯหั่นจีดีพีปี68 เหลือ 1.7%