วันนี้ (16 ก.ค.2568) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาราชการแทน รมว.กลาโหม ระบุหลังตรวจเยี่ยม กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และประชุมร่วมกับ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 และหัวหน้าส่วนราชที่เกี่ยวข้อง ที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เนื่องจากรัฐบาลมีความห่วงใยสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมารับทราบข้อมูลจาก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
สิ่งสำคัญคือ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า มีแผนงานส่งมอบพื้นที่ให้กับฝ่ายปกครองภายในปี 2570 ขณะนี้เหลือเวลาอีก 2 ปีเศษ จึงมาพูดคุยและสำรวจความพร้อม หากมีสิ่งใดที่ต้องเร่งรัดเตรียมการก็จะดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ จากการรับฟังข้อมูลในพื้นที่มีความมั่นใจใน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และมั่นใจทุกหน่วยงานในพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันกำลังเตรียมความพร้อมกันอย่างดี และคาดว่าภายในปี 2570 จะมีความพร้อมในระดับหนึ่ง แต่เมื่อถึงเวลานั้นก็จะมีการประเมินความพร้อมกันอีกครั้งว่าสามารถส่งมอบพื้นที่ให้กระทรวงมหาดไทยได้หรือไม่
สำหรับปัจจัยชี้วัดอยู่ที่การดูแลให้เป็นพื้นที่ปลอดภัย หาก 37 อำเภอในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความปลอดภัย ก็แสดงถึงความพร้อมในการส่งมอบพื้นที่ได้ โดยจะต้องพิจารณาด้วยว่าเป็นความปลอดภัยแบบปกติ หรือปลอดภัยในแบบที่สามารถควบคุมได้ เพื่อส่งมอบพื้นที่ต่อไป จึงต้องเร่งรัดหน่วยงานฝ่ายปกครองและส่วนอื่น ๆ ในการเตรียมความพร้อมดูแลพื้นที่
พร้อมกันนี้ได้ฝากเพิ่มเติมให้ทุกคนในพื้นที่ร่วมกันรับผิดชอบเรื่องความมั่นคง การดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ตั้งแต่ระดับผู้ว่าฯ, นายอำเภอลงไปถึงผู้ใหญ่บ้าน แม้กระทั่งคนในพื้นที่ก็ต้องร่วมกันรับผิดชอบ เนื่องจากในอนาคต ฝ่ายความมั่นคงโดยเฉพาะทหารก็ต้องส่งมอบพื้นที่ แต่ยืนยันว่าทหารไม่ได้ทอดทิ้งพื้นที่ เพราะหากยังไม่ปลอดภัยหรือไม่มั่นใจก็จะดูแลพื้นที่ต่อไป
แต่หากประเมินแล้วว่า 37 อำเภอในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความปลอดภัย ก็จะส่งมอบพื้นที่ให้กับกระทรวงมหาดไทยต่อไป ทั้งนี้จะมีการติดตามเป็นระยะและอาจจะมีการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมอย่างน้อยทุก 2-3 เดือน
พล.อ.ณัฐพล ย้ำว่า ปัจจุบันการทำงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีจุดแข็งอย่างหนึ่ง คือ การประสานงานระหว่างกระทรวงมหาดไทยกับกระทรวงกลาโหมที่มีความแน่นแฟ้น เนื่องจากนายภูมิธรรม เวชยชัย เคยเป็น รมว.กลาโหม และเป็นผู้บังคับบัญชามาก่อน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการดูแลพื้นที่จังหวัดแดนภาคใต้ของทุกหน่วยงานทำได้ดีอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องเพิ่มเรื่องของมาตรการด้านการข่าว โดยได้พูดคุยกับทางจังหวัดว่า ให้ฝ่ายปกครองมีกลไกการข่าวของตนเองไม่ใช่เฉพาะหน่วยงานทางทหารเท่านั้น เพื่อจะสามารถดูแลพื้นที่ได้ โดยเฉพาะการแจ้งเตือนก่อนเกิดเหตุได้บ้าง เพราะอย่างน้อยถ้าทราบข้อมูลด้านการข่าวล่วงหน้าก็จะสามารถป้องกันพื้นที่ได้
พล.อ.ณัฐพล ย้ำว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ เป็นการรับทราบข้อมูลจากระดับนโยบาย แต่เรื่องการดูแลพื้นที่โดยเฉพาะการดูแลความปลอดภัยกลุ่มเป้าหมายอ่อนแอ ซึ่งเป็นเรื่องที่แม่ทัพภาคที่ 4 ให้ความสำคัญอยู่แล้ว คงไม่จำเป็นต้องเน้นย้ำ และทางแม่ทัพภาคที่ 4 ได้รายงานให้ทราบโดยตลอดอยู่แล้ว
พล.อ.ณัฐพล ยังระบุถึงความคืบหน้ากระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า เป็นเรื่องในระดับรัฐบาลที่จะพูดคุยกัน แต่เท่าที่รับทราบจากรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ขณะนี้กำลังพิจารณาอยู่ แต่ก็ได้เน้นย้ำกับแม่ทัพภาคที่ 4 ว่า กลไกการพูดคุยมี 2 ระดับ คือ ระดับพื้นที่กับระดับประเทศ ดังนั้นในขณะที่การตั้งคณะพูดคุยสันติสุขระดับประเทศยังไม่เกิดขึ้น ก็ขอให้ระดับพื้นที่ดำเนินการเพราะหากการพูดคุยระดับพื้นที่ประสบความสำเร็จ ก็อาจไม่ต้องใช้การพูดคุยระดับประเทศด้วยซ้ำ จึงย้ำให้แม่ทัพภาคที่ 4 เดินหน้าพูดคุยสันติสุขระดับพื้นที่ต่อไป และทำให้ได้มากที่สุด
อ่านข่าว : ทบ.โต้ข่าวทหารกัมพูชายึด "ภูมะเขือ" แจงเป็นพื้นที่ 2 ประเทศต่างอ้างสิทธิ์
"ภูมิธรรม" ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ เปิดงาน ชรบ. บอกไม่เกี่ยว "เลือกตั้งซ่อม"
แท็กที่เกี่ยวข้อง: