ซูเปอร์ไต้ฝุ่น "ฟงวอง" พัดขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์ ฝนหนัก ลมแรง

ซูเปอร์ไต้ฝุ่นฟงวอง พัดขึ้นฝั่งเกาะลูซอน ทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์ ซึ่งมีประชากรหนาแน่นมากที่สุด เมื่อเวลา 21.10 น.ที่ผ่านมา ของวันที่ 9 พ.ย. 2568 ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีความเร็วลมสูงสุด 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีลมกระโชกแรงถึง 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ซูเปอร์ไต้ฝุ่นฟงวองนับเป็นพายุหมุนเขตร้อนลูกที่ 21 ที่ถล่มฟิลิปปินส์ในปีนี้ และเป็นพายุลกที่ 2 ของเดือนนี้ โดยอ่อนกำลังลงเป็นไต้ฝุ่นหลังพัดขึ้นฝั่ง แต่ยังคงมีความเร็วลมกว่า 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และส่งผลให้ฝนตกหนัก ลมกระโชกแรงและคลื่นพายุซัดฝั่ง

หน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์เตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังอันตรายจากน้ำท่วม ดินถล่ม และคลื่นพายุซัดฝั่งที่อันตรายถึงชีวิต โดยหลายพื้นที่ของฟิลิปปินส์เผชิญสภาพอากาศเลวร้ายลักษณะนี้ตั้งแต่ก่อนพายุพัดขึ้นฝั่ง สะพานแขวนใน จ.คามาริเนส ซูร์ บนเกาะลูซอนสั่นไหวอย่างรุนแรง หลังพื้นที่ดังกล่าวเผชิญกับฝนตกหนักและลมกระโชกแรงจากอิทธิพลซูเปอร์ไต้ฝุ่นฟูวองตั้งแต่ก่อนพายุมาถึง

ส่วนตามพื้นที่ชายฝั่งเผชิญฝนตกหนักและลมกระโชกแรงจนสร้างความเสียหาย รวมทั้งยังเจอคลื่นสูงจนน้ำทะลักท่วมชายฝั่งในหลายจุดด้วย ขณะที่ถนนหลายสายแปรสภาพเป็นแม่น้ำที่มีกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก ท่ามกลางชาวบ้านที่เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหลายจุดปรากฏภาพความเสียหาย ทั้งต้นไม้ กิ่งไม้ เสาไฟที่หักโค่น รวมถึงสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ที่พังถล่มหรือถูกพัดปลิวจากแรงลม

ฟิลิปปินส์อพยพนับล้านหนีซูเปอร์ไต้ฝุ่น "ฟงวอง"

ทางการฟิลิปปินส์สั่งอพยพประชาชนมากกว่า 1 ล้านคน เพื่อเตรียมรับมือกับพายุลูกนี้ พร้อมทั้งปิดสถานศึกษาและสถานที่ราชการทั่วเกาะลูซอน รวมถึงที่กรุงมะนิลาต่อจนถึงวันนี้เพื่อความปลอดภัย ด้านเจ้าหน้าที่หน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์ระดมกำลังลงพื้นที่หลายจุดเพื่อช่วยอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัย โดยทางการเปิดศูนย์พักพิงในหลายพื้นที่รองรับผู้ประสบภัยพายุ

นอกจากนี้ กองทัพฟิลิปปินส์ยังได้ส่งทหารประมาณ 2,000 นาย ลงพื้นที่เตรียมปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือและกู้ภัย พร้อมทั้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงที่พายุจะเคลื่อนตัวผ่าน ปฏิบัติตามคำสั่งของทางการ เนื่องจากพายุลูกนี้อันตรายอย่างมาก และการปฏิบัติตามคำเตือนจะช่วยลดความเสี่ยงของเจ้าหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือหลังเกิดภัยพิบัติด้วย

ตำรวจฟิลิปปินส์ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและติดตามสถานการณ์หลังซูเปอร์ไต้ฝุ่นฟงวองพัดขึ้นฝั่ง โดยมีรายงานว่าอิทธิพลพายุลูกล่าสุดนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน ซึ่งมีรายงานตั้งแต่พายุพัดขึ้นฝั่ง ขณะที่สนามบินหลายแห่งต้องปิดทำการชั่วคราว และเที่ยวบินร่วม 300 เที่ยวถูกยกเลิก 

คาดว่าพายุจะทำให้มีฝนตกมากกว่า 200 มิลลิเมตรในบางพื้นที่ของเกาะลูซอน และอาจมีฝนตก 100-200 มิลลิเมตร ในกรุงมะนิลาและปริมณฑล ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงและดินถล่ม

หน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์คาดว่าพายุฟงวองจะมุ่งหน้าไปทางเหนือและเข้าสู่น่านน้ำชายฝั่งจังหวัดลา อูนิออนในช่วงเช้าวันนี้ โดยจะยังคงมีกำลังแรงในระดับพายุไต้ฝุ่น จากนั้นจะมุ่งหน้าออกสู่ทะเลและอ่อนกำลังลงเมื่อเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งทางตะวันกตกของไต้หวันในวันพฤหัสบดี

ฟิลิปปินส์-เวียดนาม ยังอ่วมหลังพายุ "คัลแมกี" ถล่ม

พายุฟงวองเคลื่อนตัวเข้าเขตที่หน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์ติดตามและเตือนภัยพายุตั้งแต่ช่วงดึกวันศุกร์ หรือไม่ถึง 48 ชั่วโมง หลังจากพายุคัลแมกี ซึ่งนับเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ปีนี้ เคลื่อนตัวพ้นเขตประเทศ

หลายพื้นที่ทางตอนกลางของฟิลิปปินส์ยังอยู่ระหว่างฟื้นฟูพื้นที่ หลังอิทธิพลพายุสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง และทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 224 คน สูญหายอีกกว่า 100 คน

เช่นเดียวกับที่เวียดนามที่ประชาชน โดยเฉพาะบรรดาชาวประมงเดินหน้าเก็บกู้ความเสียหายจากอิทธิพลไต้ฝุ่นคัลแมกี โดยในเวียดนาม ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากพายุลูกนี้อยู่ที่อย่างน้อย 5 คน

อ่านข่าว : แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านถล่ม ลิเวอร์พูล 3-0 รั้งรองจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก

ทีมสัตวแพทย์เตรียมให้เลือดลูกช้างป่า "ข้าวต้ม"

สภาพอากาศวันนี้ ไทยตอนบนฝนลดลง - ไต้ฝุ่นฟงวองไม่เข้าไทย