วันที่ 14 พ.ย.2568 เวลา 10.35 น. ตามเวลาท้องถิ่นของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังมหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง ในพิธีรับเสด็จอย่างเป็นทางการ ซึ่งสาธารณรัฐประชาชนจีน จัดขึ้นเพื่อถวายพระเกียรติสูงสุด แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 13-17 พ.ย.2568
นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และนางเผิง ลี่หยวน ภริยา รอรับเสด็จที่รถยนต์พระที่นั่ง ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงสัมผัสพระหัตถ์กับประธานาธิบดี และภริยา
แล้วทรงพระดำเนินไปยังแถวคณะทางการฝ่ายจีน พร้อมประธานาธิบดีและภริยา มีนายหง เหล่ย ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและอธิบดีกรมพิธีการทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน กราบบังคมทูลแนะนำคณะทางการฝ่ายจีน ประกอบด้วย นายหวัง อี้ สมาชิกกรมการเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกลางด้านกิจการต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (เทียบเท่ารองนายกรัฐมนตรี) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายจาง เจี้ยนเว่ย์ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย นางเหมียว ไห่เยี่ยน ภริยา และนายนายซุน เว่ยตง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
จากนั้น นายธานี ทองภักดี รองราชเลขานุการในพระองค์ฯ แนะนำคณะทางการฝ่ายไทยแก่ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรัฐมนตรีเกียรติยศ, นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะรัฐมนตรีเกียรติยศ, นายฉัตรชัย วิริยเวชกุล เอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง, พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์ฯ, พ.ท.สมชาย กาญจนมณี รองเลขาธิการพระราชวัง, พล.ร.อ.วีระศักดิ์ อ๊อกกังวาล ราชองครักษ์ประจำพระองค์, และ พล.อ.อ.เชษฐา เหมือนแก้ว ราชองครักษ์ประจำพระองค์
ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระดำเนินไปยังแท่นรับการถวายความเคารพ พร้อมด้วยนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน กองทหารเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างนั้น ฝ่ายจีน ยิงสลุต 21 นัด ณ จตุรัสเทียนอันเหมิน เป็นธรรมเนียมที่ทุกอรายประเทศทั่วโลก จะจัดขึ้นเพื่อแสดงความเคารพอย่างสูงสุดต่อประมุขแห่งรัฐที่มาเยือน
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินลงจากแท่นรับการถวายความเคารพ พร้อมด้วยประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ทรงตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ โอกาสนี้ ทรงคำนับธงกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ก่อนทรงพระดำเนินตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ
เมื่อทรงพระดำเนิน พร้อมด้วยประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านแถวเด็กชาวจีน ที่โบกธงชาติไทย ธงชาติจีน และช่อดอกไม้ ทรงแย้มพระสรวล พร้อมทรงโบกพระหัตถ์ทักทายเด็ก ๆ แล้วทรงพระดำเนินขึ้นแท่นรับการถวายความเคารพอีกครั้ง พร้อมด้วยประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อทอดพระเนตรการสวนสนามของกองทหารเกียรติยศ และการแปรขบวนของวงดุริยางค์ทหาร
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และภริยา ไปยังภายในอาคารมหาศาลาประชาชน โอกาสนี้ ทรงฉายพระบรมฉายาลักษณ์ ร่วมกับประธานาธิบดีฯ และภริยา แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปยังห้องปักกิ่ง ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และภริยา โอกาสนี้ นายสี จิ้นผิง กล่าวแสดงความอาลัยต่อการสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสขอบคุณ และทรงกล่าวถึงการต้อนรับที่อบอุ่น ทรงรู้สึกยินดีที่ได้มาเยือนจีนอีกครั้ง ได้เห็นความเจริญก้าวหน้า และความสวยงามของกรุงปักกิ่ง
โดยนายสี จิ้นผิง ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ตั้งแต่ปี 2556 ปัจจุบันเป็นสมัยที่ 3 และยังดำรงตำแหน่งประธานกรรมการความมั่นคงแห่งชาติ โดยในช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรมปี 2509 ขณะอายุ 16 ปี นายสี จิ้นผิง ถูกส่งไปทำงานในชนบทที่อำเภอเหยียนชวน มณฑลส่านซี เป็นเวลา 6 ปี ทำให้มีบุคลิกอ่อนน้อมถ่อมตน เรียบง่าย โดยให้ความสำคัญกับการปฏิรูปพรรคคอมนิวนิสต์จีน การทำงานของภาครัฐและกองทัพ และการเดินหน้าปราบปราบการทุจริตคอร์รัปชันอย่างจริงจัง รวมถึงการผลักดันแนวคิดความฝันของจีน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูชาติที่ยิ่งใหญ่และสร้างความกินดีอยู่ดีของประชาชน
ต่อจากนั้น พระราชทานบรมพระราชวโรกาสให้นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ ห้องตะวันออก ในการนี้ นายหลี่ เฉียง ได้กล่าวแสดงความขอบคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงยึดหมายกำหนดการเดิม ในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน แม้จะอยู่ในช่วงเวลาแห่งความสูญเสียของคนไทยทั้งประเทศ แสดงให้เห็นถึงน้ำพระทัยไมตรีที่ไทยและจีนมีต่อกันเสมอมา และกล่าวถึงความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ระหว่างไทยและจีน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสขอบใจ โดยทรงกล่าวว่า ดีใจที่ได้มาเยือนจีนอีกครั้ง ในทุกครั้งจะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี เหมือนได้กลับบ้าน นายหลี่ เฉียง ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ปี 2566 เป็นผู้มีประสบการณ์สูงในการพัฒนาเศรษฐกิจ สนับสนุนการเปิดเสรีทางเศรษฐกิจ การพัฒนาของภาคเอกชน และการลงทุนในนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ รวมถึงอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม และเทคโนโลยีทางการเงิน
ภายหลังพิธีรับเสด็จอย่างเป็นทางการในช่วงค่ำของวันนี้ (14 พ.ย.) จะมีงานถวายพระกระยาหารค่ำอย่างเป็นทางการ ณ มหาศาลาประชาชน
อ่านข่าว
ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯ ถึงสาธารณรัฐประชาชนจีน ในโอกาสเสด็จฯ เยือนอย่างเป็นทางการ











