ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ไทม์ไลน์ "ทักษิณ" ขายหุ้นชินคอร์ป สู่คำสั่งเรียกเก็บภาษี 1.76 หมื่นล้าน

การเมือง
08:53
595
ไทม์ไลน์ "ทักษิณ" ขายหุ้นชินคอร์ป สู่คำสั่งเรียกเก็บภาษี 1.76 หมื่นล้าน
อ่านให้ฟัง
06:36อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
คดีภาษีของ "ทักษิณ" เกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บภาษีจากการขาย "หุ้นชินคอร์ป" ล่าสุดศาลฎีกามีคำพิพากษากลับไม่ยืนตามศาลอุทธรณ์ โดยให้สรรพากรเรียกเก็บภาษี 1.76 หมื่นล้านบาท

กรณีศาลฎีกามีคำพิพากษากลับในคดีภาษีของนายทักษิณ ชินวัตร ในฐานะโจทก์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการที่กรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีจากการขายหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จำนวน 1.76 หมื่นล้านบาท โดยหลังจากนี้จะต้องมีการบังคับคดี อาจต้องขอให้ออกหมายบังคับคดีก่อนและอาจใช้เวลาราว 1-2 เดือน จึงจะออกหมายบังคับคดีได้

สำหรับคดีนี้ สืบเนื่องจากปัญหาการทำธุรกรรมซื้อขายหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ระหว่างปี 2541-2549 

วันที่ 10 เม.ย.2541 นายทักษิณ เป็นผู้ถือหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จำนวน 32,920,000 หุ้น

วันที่ 12 มี.ค.2542 นายทักษิณ จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท แอมเพิล ริช อินเวสท์เมนท์ จำกัด เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายต่างประเทศ ในหมู่เกาะ British Virgin มีทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็นหุ้นจำนวน 50,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 ดอลลาร์สหรัฐ เรียกชำระค่าหุ้นเพียง 1 หุ้น มูลค่า 1 ดอลลาร์สหรัฐ

บริษัท แอมเพิล ริช อินเวสท์เมนท์ จำกัด มีนาย Lau Hwee Tiang และนางกาญจนา หงส์เหิน เป็นกรรมการ มีวัตถุประสงค์ในการซื้อขายหุ้นหรือหลักทรัพย์ในประเทศไทย โดย นายทักษิณ เป็นผู้ถือหุ้นแต่เพียงผู้เดียว จำนวน 1 หุ้น

วันที่ 11 มิ.ย.2542 บริษัท แอมเพิล ริช อินเวสท์เมนท์ จำกัด ซื้อหุ้นบริษัท ชิน คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จำนวน 32,920,000 หุ้น จากนายทักษิณ มูลค่าหุ้นละ 10 บาท (ราคา PAR) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

นายทักษิณ ชินวัตร

นายทักษิณ ชินวัตร

นายทักษิณ ชินวัตร

วันที่ 2 ก.พ.2543 บริษัท แอมเพิล ริช อินเวสท์เมนท์ จำกัด ได้เพิ่มนายพานทองแท้ ชินวัตร เป็นกรรมการ

วันที่ 1 ธ.ค.2543 นายทักษิณ โอนหุ้นบริษัท แอมเพิล ริช อินเวสท์เมนท์ จำกัด จำนวน 1 หุ้นให้แก่นายพานทองแท้

วันที่ 29 ส.ค.2544 บริษัท ชิน คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนลดมูลค่าหุ้นจากที่ตราไว้ 10 บาท เหลือหุ้นละ 1 บาท ทำให้จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น 10 เท่า เป็นผลให้บริษัท แอมเพิล ริช อินเวสท์เมนท์ จำกัด เป็นผู้ถือหุ้นบริษัท ชิน คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จำนวน 329,200,000 หุ้น

วันที่ 16 พ.ค.2548 บริษัท แอมเพิล ริช อินเวสท์เมนท์ จำกัด เรียกชำระค่าหุ้นเพิ่มอีก 4 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 ดอลลาร์สหรัฐ โดยนายพานทองแท้ ซื้อเพิ่ม 3 หุ้น และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ซื้อ 1 หุ้น และได้เปลี่ยนแปลงกรรมการ เป็นนายพานทองแท้, น.ส.พินทองทา และนางกาญจนา

บริษัท แอมเพิล ริช อินเวสท์เมนท์ จำกัด ได้ขายหุ้นบริษัท ชิน คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ถืออยู่ทั้งหมดให้กับนายพานทองแท้และ น.ส.พินทองทา ซึ่งเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นของบริษัท แอมเพิล ริช อินเวสท์เมนท์ จำกัด ในราคาหุ้นละ 1 บาท โดยทำการซื้อขายกันนอกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

วันที่ 23 ม.ค.2549 นายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ขายหุ้นดังกล่าวให้แก่กลุ่มบริษัทในเครือเทมาเส็ก ผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ มูลค่า 7.3 หมื่นล้านบาท โดยที่ไม่ต้องเสียภาษีแม้แต่บาทเดียว

นายทักษิณ พร้อมด้วยลูกชาย-ลูกสาว นายพานทองแท้ ชินวัตร (ขวา) และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ (ซ้าย)

นายทักษิณ พร้อมด้วยลูกชาย-ลูกสาว นายพานทองแท้ ชินวัตร (ขวา) และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ (ซ้าย)

นายทักษิณ พร้อมด้วยลูกชาย-ลูกสาว นายพานทองแท้ ชินวัตร (ขวา) และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ (ซ้าย)

คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) มีความเห็นว่า การที่บริษัท แอมเพิล ริช อินเวสท์เมนท์ จำกัด โอนหุ้นให้แก่นายพานทองแท้และ น.ส.พินทองทา ในราคาต่ำกว่าราคาตลาด ถือว่าส่วนต่างของราคาหุ้นระหว่างราคาตลาดกับราคาที่นายพานทองแท้และ น.ส.พินทองทา ได้รับโอนมาจากบริษัท แอมเพิล ริช อินเวสท์เมนท์ จำกัด เป็นเงินได้ที่ต้องเสียภาษีตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร

วันที่ 28 มี.ค.2560 กรมสรรพากรออกหนังสือแจ้งให้นายทักษิณ ต้องจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา พร้อมเบี้ยปรับเงินเพิ่ม เป็นเงิน 1.76 หมื่นล้านบาท ให้กับกรมสรรพากร

วันที่ 25 เม.ย.2560 ทีมกฎหมายนายทักษิณ ยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดี

วันที่ 2 มิ.ย.2566 ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ มีคำพิพากษาให้เพิกถอนการประเมินภาษีของกรมสรรพากร โดยให้เหตุผลว่าการดำเนินการไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งนายทักษิณชนะคดีนี้ในชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์

ต่อมากรมสรรพากรยื่นฎีกาต่อศาลฎีกา กระทั่งวันที่ 17 พ.ย.2568 ศาลฎีกามีคำพิพากษากลับไม่ยืนตามศาลอุทธรณ์ โดยให้บังคับคดีเรียกเก็บภาษีจากการขาย "หุ้นชินคอร์ป"

อ่านข่าว

ศาลฎีกาพิพากษากลับ ให้ "ทักษิณ" แพ้คดีเลี่ยงภาษีขายหุ้นชินฯ จ่าย 1.76 หมื่นล้านบาท

"อสส." สั่งอุทธรณ์คดี ม.112 "ทักษิณ" ที่ศาลยกฟ้อง

ครอบครัวเผย "ทักษิณ" พร้อมสู้ หลัง "อสส." เตรียมยื่นอุทธรณ์คดี ม.112