ตอนนี้ที่หาดใหญ่ จ.สงขลา มีผู้ประสบภัยจำนวนมากที่อยู่ในสภาพน้ำท่วมสูงระดับกว่า 2 เมตรและกว่า 3 เมตร มา 5-6 วันแล้ว และยังช่วยออกมาไม่ได้ จากสถานการณ์น้ำเชี่ยวและทีมไม่พอเข้าช่วย ทำให้พวกเขาต้องเผชิญ "การต่อสู้กับร่างกายตัวเอง" อย่างหนัก เพราะร่างกายขาดน้ำ ขาดอาหาร ในระหว่างที่การช่วยเหลือยังเข้าไม่ถึงตัว
หลายวันมานี้ มีเคสจำนวนมากแจ้งขอความช่วยเหลือว่า ขาดน้ำ ขาดอาหาร มาตั้งแต่วันที่ 2 ที่น้ำท่วมบ้านแล้วหนีออกมาไม่ทัน และแบบที่แจ้งข้อมูลแทนญาติให้ข้อมูลคล้าย ๆ กันถึงสภาพที่เผชิญ ซึ่งเวลานี้ แบตมือถือติดต่อกันไม่ได้แล้ว 100%
ถ้านับเวลา วันนี้ (26 พ.ย.2568) เป็นวันที่ 5-6 ของการแช่น้ำที่ท่วมอยู่ในบ้าน และมีบ้านเรือนจำนวนมากที่น้ำเข้าถึงชั้น 2 และทำให้แต่ละครอบครัวต้องแช่น้ำกันอย่างไม่มีทางเลือก
สถานการณ์ที่ "ร่างกายขาดน้ำ" หรือ "ขาดอาหาร" อย่างน้อย 5 วัน และอยู่ในภาวะ "แช่น้ำท่วมตัว" แบบไม่มีที่ให้หนีพ้นน้ำได้อีก เป็นภาวะวิกฤตและอันตรายถึงชีวิตได้สูงมาก ควรได้รับการช่วยเหลือและดูแลทางการแพทย์อย่างเร่งด่วน ถ้าฝ่ายเกี่ยวข้องมองไม่เห็นประเด็นนี้ ไม่เร่งสั่งการ-จัดหาทีมเข้าไปถึงจุดของผู้คนกลุ่มนี้อยู่ให้เร็วที่สุด แนวโน้มความเสี่ยงที่จะยิ่งเสี่ยง "สูญเสีย" จะเพิ่มมากขึ้น ภัทราพร ตั๊นงาม ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส พูดคุยกับคุณหมอหลายคนที่เคยอยู่ในประสบการณ์ช่วยคนช่วงวิกฤตน้ำท่วม ต่างประเมินและประมวลสอดคล้องกัน ได้ขอสรุปความเสี่ยงและภาวะวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นได้ ตามนี้
1.เริ่มที่ภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรง (Severe Dehydration) ก่อน
- การขาดน้ำอย่างน้อย 5 วัน เป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกาย อาจทำให้เกิดภาวะช็อก (Hypovolemic Shock) ปริมาณเลือดลดลงอย่างมาก ความดันโลหิตต่ำ หัวใจเต้นเร็ว หายใจหอบถี่ และออกซิเจนไปเลี้ยงอวัยวะสำคัญไม่เพียงพอ อาจเสียชีวิตได้
- ต่อมาร่างกายจะเจอกับภาวะไตวายเฉียบพลัน ไตขาดเลือดและน้ำอย่างรุนแรง ทำให้ไม่สามารถขับของเสียออกจากร่างกาย
- ความผิดปกติของเกลือแร่ในร่างกายไม่สมดุล อาจทำให้เกิดอาการชัก หัวใจเต้นผิดจังหวะ และหมดสติ
- อาการทางระบบประสาท ซึม สับสน สูญเสียการรับรู้ หรือหมดสติ
2.ภาวะขาดสารอาหาร (Severe Malnutrition)
- การขาดอาหารอย่างน้อย 5 วัน ทำให้ร่างกายใช้พลังงานจากแหล่งสำรองจนหมด
- เกิดความอ่อนเพลียรุนแรง ร่างกายไม่มีพลังงานในการทำงานตามปกติ
- ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงอย่างมาก เสี่ยงต่อการติดเชื้อทุกชนิด
3.ความเสี่ยงจากการที่ตัวแช่น้ำท่วมขังเป็นเวลานาน
- ร่างกายจะอ่อนแอลงจากการขาดน้ำและอาหาร เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและปัญหาสุขภาพอย่างมาก
- โรคฉี่หนู (Leptospirosis) หากติดเชื้อเข้าสู่ร่างกาย โดยผ่านผิวหนังหรือบาดแผลขณะแช่น้ำ ก็เสี่ยงอันตรายสูง อาจทำให้ตับ-ไตวาย หรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
- โรคทางเดินอาหาร เช่น ท้องร่วง อาหารเป็นพิษ จากการปนเปื้อนของเชื้อโรคในน้ำ
- โรคผิวหนัง โรคน้ำกัดเท้า เชื้อรา ผิวหนังเปื่อยยุ่ย และติดเชื้อราหรือแบคทีเรีย
- ที่สำคัญ หากได้รับบาดแผลพุพอง-เป็นหนอง จากบาดแผลที่สัมผัสกับน้ำสกปรก ยิ่งทำให้เชื้อโรคเข้าสู่กระแสเลือดได้ง่าย
4.ภาวะอุณหภูมิกายต่ำ (Hypothermia)
- หากน้ำที่ท่วมมีอุณหภูมิต่ำ การแช่น้ำตลอดเวลาจะทำให้ร่างกายสูญเสียความร้อนอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งเมื่อร่างกายอ่อนแอและขาดพลังงาน
- หลอดเลือดจะหดตัว หัวใจและระบบหายใจล้มเหลว หากไม่รักษาอาจนำไปสู่การเสียชีวิต
คุณหมอแนะนำว่า สิ่งที่ควรทำในสถานการณ์นี้ ถ้าสามารถทำได้ ต้องให้ความสำคัญกับการให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์เป็นอันดับแรก หากยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ ควรทำดังนี้เท่าที่จะทำได้ เช่น
- หาทางช่วยคนออกจากน้ำโดยเร็วที่สุด หาที่แห้งและอบอุ่น ทำความอบอุ่น เช็ดตัวให้แห้ง ห่มผ้า หากมีเสื้อผ้าแห้งให้เปลี่ยน
- ถ้าช่วยได้แล้วเบื้องต้น ให้สารน้ำหรือเกลือแร่ จิบน้ำสะอาด ทีละน้อย ๆ ช้า ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการอาเจียน ห้ามดื่มน้ำปริมาณมากอย่างรวดเร็ว
- ทีมที่เข้าช่วย อาจจำเป็นต้องพกเกลือแร่ และน้ำสะอาดไปเผื่อด้วย ถ้าเข้าถึงตัวผู้ประสบภัย จะได้ให้จิบได้ระหว่างขึ้นเรือ ในจุดที่ช่วยประชาชน เช่น ศูนย์อพยพ โรงพยาบาล หรือโรงพยาบาลสนาม
- จัดหาอาหาร ให้รับประทานอาหารอ่อน ๆ ย่อยง่าย และให้พลังงานสูงในปริมาณน้อย ๆ ก่อน เช่น ข้าวต้ม หรือน้ำซุป
- การดูแลบาดแผล ทำความสะอาดบาดแผลและทายาฆ่าเชื้อทันทีที่ทำได้
- กรณีที่ผู้ประสบภัยเป็นผู้ป่วยติดเตียง มีโรคประจำตัว หรือ เด็กเล็ก สถานการณ์แนวโน้มจะยิ่งอันตรายต่อชีวิตมากขึ้น เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้มีความเปราะบางสูงมาก (High-Vulnerability Group) เสี่ยงขาดยาที่ต้องกินเป็นประจำ - ขาดอุปกรณ์ที่ต้องใช้เกี่ยวกับโรคนั้นๆ เช่น ถังออกซิเจน น้ำยาฟอกไต ฯลฯ
- แล้วถ้าตัวยังต้อง "แช่น้ำ" ด้วย ยิ่งเป็นห้วงเวลาสำคัญที่ต้องเร่งเข้าไปให้ถึงตัวและช่วยเหลือออกมาให้ได้มากที่สุด เร็วที่สุด
ยิ่งนาน ยิ่งเสี่ยง
ตอนนี้ เหล่าผู้ประสบภัยคงโทรแจ้งขอความช่วยเหลือตามเบอร์ต่าง ๆ หน่วยต่าง ๆ ที่ตั้งศูนย์กันเต็มไปหมด แต่ก็คงมีอีกจำนวนมากที่เข้าไม่ถึงความช่วยเหลือ จากสภาพปัจจัยที่ระดับน้ำยังท่วมสูง และแบตเตอรี่มือถือหมด น้ำท่วมบ้าน ระบบไฟฟ้าตัด
มาถึงบรรทัดนี้ ขอเป็นกำลังให้ทุกครอบครัวที่ยังรอการช่วยเหลือที่ล่าช้า และเข้าไม่ถึงผู้ประสบภัยอีกจำนวนมาก ขอให้ทุกคนยังมีความหวัง ขอให้ทุกคนปลอดภัย
ภัทราพร ตั๊นงาม รายงาน
อ่านข่าวอื่น :
“กองทัพเรือ” ระบุวางหมุดอ้างอิงชั่วคราวไทย-เขมร เรียบร้อย
นาทีชีวิต ฮ.เคลื่อนย้ายผู้ป่วยวิกฤต ส่ง รพ.สงขลานครินทร์











