วันนี้ (8 ธ.ค.2568) เวลา 16.00 น. นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและนายอำเภอทุกอำเภอ เพื่อติดตามสถานการณ์พื้นที่ชายแดนตามแผน “พิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง” ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดที่ยังต้องเฝ้าระวัง ซึ่งการประชุมครั้งนี้ อำเภอต่างๆ รายงานสถานการณ์และปัญหาอุปสรรคของศูนย์อพยพผ่านระบบออนไลน์แบบเรียลไทม์ เพื่อให้จังหวัดรับทราบและกำหนดแนวทางช่วยเหลือได้อย่างทันสถานการณ์
นายอนุรัตน์ เน้นย้ำว่า การดูแลประชาชนในศูนย์พักพิงต้องเข้มข้น ครอบคลุมและทั่วถึง พร้อมกำชับให้กระจายประชาชนในแต่ละศูนย์อย่างเหมาะสม อำนวยความสะดวกทุกมิติ ทั้งด้านที่พัก อาหาร น้ำดื่มและสิ่งจำเป็นต่างๆ นอกจากนี้ยังสั่งการให้ทุกหน่วยงานใช้ข้อมูลชุดเดียวกัน เพื่อลดความสับสนและทำให้การดำเนินงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ด้วยตนเอง พบว่า ศูนย์พักพิงแต่ละแห่งจำเป็นต้องมี "หัวหน้าศูนย์" เพื่อบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ อาจเป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือบุคคลที่อำเภอมอบหมาย พร้อมจัดทีมอำเภอแบบ 1 ต่อ 4 เข้าดูแล ตรวจสอบและรับทราบความต้องการของประชาชนอย่างใกล้ชิด สำหรับสิ่งของที่ประชาชนต้องการมากในช่วงนี้คือแพมเพิร์สและผ้าห่ม โดยย้ำว่าอย่าทำงานแบบวันต่อวัน ต้องบริหารจัดการน้ำดื่ม อาหารและของจำเป็นล่วงหน้า พร้อมรายงานสถานการณ์ให้ชาวบ้านทราบทุกวัน รวมถึงให้หาเชื้อเพลิงและวัตถุดิบประกอบอาหารให้มีเพียงพอ
ทั้งนี้ เพื่อสื่อสารกับประชาชนอย่างทั่วถึง ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ ขอให้ศูนย์ต่างๆ เปิดเวทีชี้แจงทุกเย็น เพื่อสอบถามความต้องการและแก้ปัญหาให้ตรงจุด พร้อมให้คำมั่นว่าสิ่งที่ประชาชนต้องการ หากมีในพื้นที่จะส่งถึงมือภายใน 12 ชั่วโมง หากต้องจัดหาเพิ่มจะไม่เกิน 48 ชั่วโมงแน่นอน
ส่วนพื้นที่ที่ประชาชนอพยพออกแล้ว ให้ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) เข้าไปดูแลความปลอดภัยและความเรียบร้อย พร้อมทั้งให้แยกการดำเนินงานระหว่างศูนย์อพย และศูนย์พักพิงให้ชัดเจน เพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการ หากสถานการณ์ยืดเยื้อ โรงครัวกลางต้องบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพหมุนเวียนร้านอาหารในชุมชนมาประกอบอาหารให้ศูนย์พักพิงต่างๆ ปรับเมนู ลดความจำเจและทำให้ประชาชนกินอิ่มอย่างมีคุณภาพ
นอกจากนี้ ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ สั่งการให้เร่งจัดตั้งวอร์รูม เป็นศูนย์กลางประสานงานและช่วยเหลือประชาชนแบบครบวงจร เพื่อให้การทำงานระหว่างหน่วยงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทันเหตุการณ์และตอบสนองต่อประชาชนได้ดีที่สุด
นายอำเภอกันทรลักษ์ให้ ปชช.อาศัยอยู่ใต้แนวถนนสาย 24 อพยพ
ขณะที่ชาว อ.กันทรลักษ์ ทยอยออกจากพื้นที่ หลังฝ่ายปกครองประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนอพยพเพื่อความปลอดภัย ซึ่งจากการสังเกตการณ์พบว่า ประชาชนที่ได้รับข่าวสารต่างให้ความร่วมมือ ทำให้บนถนนสาย 24 โชคชัยเดชอุดม มีรถยนต์จำนวนมากเคลื่อนตัวออกจากเขต อ.กันทรลักษ์ เพิ่มเติม
ก่อนหน้านี้เวลา 19.00 น. มีการเผยแพร่ข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ของท้องถิ่น ระบุว่า นายอำเภอกันทรลักษ์ สั่งการให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ใต้แนวถนนสาย 24 ได้แก่ พื้นที่เทศบาลเมืองกันทรลักษ์ น้ำอ้อม หนองหญ้าลาด กระแชง เวียงเหนือ ทุ่งใหญ่ เมือง สังเม็กตอนล่าง สวนกล้วยตอนล่าง และกุดเสลาตอนล่าง อพยพออกนอกพื้นที่
ชาวบ้านส่วนหนึ่งเริ่มออกเดินทางตั้งแต่เวลา 20.00 น. เพื่อเข้าพักในศูนย์อพยพชั่วคราว โดยระบุว่าผู้นำชุมชนเดินทางมาแจ้งถึงที่บ้าน
ด้าน จ.อ.สมควร สิงห์คำ นายอำเภอกันทรลักษ์ ยืนยันว่า คำสั่งดังกล่าวเป็นเรื่องจริง แต่เป็นมาตรการตามแผนอพยพและความปลอดภัยในพื้นที่ที่กำหนดไว้ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในรัศมีเสี่ยงและวิถีของอาวุธ พร้อมระบุว่าการประกาศครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติตามแผน หลังจากกองทัพภาคที่ 2 แจ้งเตือนให้ประชาชนตามแนวชายแดนออกจากพื้นที่ เพื่อเตรียมดำเนินการด้านความมั่นคง
อ่านข่าว
ตราดสั่งอพยพประชาชนแล้ว 3 อำเภอชายแดนกัมพูชา
ปิดชั่วคราว รพ.โซนแดงเกือบ 10 แห่งใน 4 จังหวัดอีสานใต้
ทภ.2 แจ้งข้อมูลศูนย์พักพิงฯ 4 จว.อีสานใต้ 307 แห่ง รองรับ 3.5 แสนคน