ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ทร.ยืนยันไม่ได้ใช้อาวุธเคมี กรณีปฏิบัติการทางทหารต่อ "กำลังพลกัมพูชา" รุกล้ำพื้นที่ จ.ตราด

การเมือง
10:12
424
ทร.ยืนยันไม่ได้ใช้อาวุธเคมี กรณีปฏิบัติการทางทหารต่อ "กำลังพลกัมพูชา" รุกล้ำพื้นที่ จ.ตราด
อ่านให้ฟัง
02:31อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กองทัพเรือยืนยัน ปฏิบัติทางทหารของกองทัพเรือ กรณีกำลังทหารกัมพูชารุกล้ำพื้นที่อธิปไตยของไทย บริเวณ จ.ตราด ไม่มีการใช้อาวุธต้องห้ามใด ๆ และไม่เคยมีอยู่ในครอบครอง เช่น อาวุธเคมี อาวุธ

การปฏิบัติทางทหารของกองทัพเรือกรณีกำลังทหารกัมพูชารุกล้ำพื้นที่อธิปไตยของไทย บริเวณ จ.ตราด

วันนี้ (9 ธ.ค.2568) พล.ร.ต.ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงว่า การปฏิบัติของกำลังพลไทยต่อสถานการณ์ที่มีกำลังทหารฝ่ายกัมพูชารุกล้ำเข้ามาในพื้นที่อธิปไตยของไทย บริเวณบ้านหนองรี ต.ชำราก อ.เมืองตราด จ.ตราด เป็นไปตาม หลักสากลด้านความมั่นคงและกฎหมายระหว่างประเทศ โดยยึดหลักความจำเป็นและความได้สัดส่วน (Necessity & Proportionality) อย่างเคร่งครัด

ในการปฏิบัติ กองทัพเรือได้ใช้มาตรการขั้นต่ำที่สุดที่จำเป็น ต่อการยับยั้งการละเมิดอธิปไตย ได้แก่ การยิงเตือนตามขั้นตอนสากล เพื่อเปิดโอกาสให้กำลังฝ่ายกัมพูชาถอยออกจากพื้นที่อย่างปลอดภัย ก่อนดำเนินมาตรการอื่นใดเพิ่มเติม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของฝ่ายไทยที่จะควบคุมสถานการณ์ไม่ให้ยกระดับสู่ความตึงเครียดที่ไม่จำเป็น

กองทัพเรือขอยืนยันว่า ในการปฏิบัติทั้งหมด ไม่มีการใช้อาวุธต้องห้ามใด ๆ และไม่เคยมีอยู่ในครอบครอง เช่น อาวุธเคมี อาวุธชีวภาพ ตามที่อาจมีการเผยแพร่ข้อมูลคลาดเคลื่อนในบางช่องทาง ทั้งนี้ ฝ่ายไทยปฏิบัติการโดยใช้เฉพาะอาวุธและมาตรการที่มุ่งจำกัดผลกระทบเฉพาะต่อ เป้าหมายทางทหาร เท่านั้น

กองทัพเรือยังคงยึดมั่นในกรอบกติกาสากล และมุ่งปกป้องอธิปไตยของชาติควบคู่กับการรักษาเสถียรภาพของพื้นที่ชายแดน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงเพื่อคงไว้ซึ่งบรรยากาศสันติภาพในภูมิภาค

ไม่ได้ใช้อาวุธหนักเกินความจำเป็น

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า สำหรับภารกิจของกองทัพเรือในช่วงเช้าของวันนี้กองทัพเรือได้เปิดปฏิบัติการทางทหารในการขับไล่ผู้รุกรานในพื้นที่บ้านหนองรี ตำบล ชำราก อำเภอเมือง จังหวัดตราด หรือ บ้าน 3 หลัง สำหรับพื้นที่บริเวณนี้ถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีข้อพิพาทที่มีมานาน และกองทัพเรือได้เคยเปิดปฏิบัติการในการรื้อบ้าน 3 หลังไปเรียบร้อยแล้วก่อนหน้านี้

ซึ่งในขณะนั้นทางกองกำลังของกัมพูชาก็ได้ถอยร่นออกไป แต่ปัจจุบันได้มีการตรวจพบว่ามีการลอบกลับเข้ามายึดครองพื้นที่ใหม่อีกครั้ง และ มีการเสริมกำลังปรับปรุงฐานที่มั่น และปรับปรุงบ้านเรือนที่ยังคงค้างอยู่ในพื้นที่ 3-4 หลัง โดยทำเป็นที่พักอาศัยและเป็นพื้นที่เก็บยุทโธปกรณ์

นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงพัฒนาเป็นฐานยิง มีการขุดคูเลตเพื่อวางกำลังเพิ่มเติม ประกอบกับมีการเสริมกำลังด้วยพลซุ่มยิงและรบพิเศษ มีการลาดตระเวนในพื้นที่บ่อยครั้ง

ซึ่งนอกจากจะมีการวางกำลังทหารแล้ว ก็ยังมีการยั่วยุโดยใช้อากาศยานไร้คนขับมาตรวจการในพื้นที่ของไทย ซึ่งจุดที่มีการยั่วยุโดยอากาศยานไร้คนขับนั้น กระทำในจุดที่เป็นฐานที่มั่นของกองกำลังนาวิกโยธิน

ที่ผ่านมาทางกองทัพเรือก็พยายามเจรจามาโดยตลอดทั้งใช้มาตรการเบาไปหาหนัก และมีการเจรจาอย่างสันติให้ กำลังทหารของกัมพูชาถอยร่นออกไป แต่สุดท้ายการยั่วยุกับรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

จนกระทั่งล่าสุดเมื่อเช้ามืดวันนี้ ทางกำลังทหารเรือได้ใช้กำลังทหารในการผลักดันทหารของกัมพูชาให้ถอยร่นออกจากพื้นที่ไป เริ่มตั้งแต่เมื่อช่วงเวลา 05.30 น. ที่ผ่านมา โดยใช้อาวุธขับไล่ และจนถึงขณะนี้ก็ยังคงติดพันการรบอยู่ ปฏิบัติการทหารยังไม่เสร็จสิ้น

โดยคาดว่า การปฏิบัติการทางทหารจะจบภายในเร็ววันนี้ โดยในการปฏิบัติการทางกองทัพเรือ ยึดมั่นในการรักษาอธิปไตยเป็นหลัก ไม่ได้มีการใช้อาวุธหนักเกินความจำเป็น เพียงเพื่อต้องการให้ทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ของประเทศไทยไปโดยเร็วที่สุด

โดยก่อนหน้านี้ทาง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราดก็ได้สั่งการให้มีการอพยพพี่น้องประชาชนที่อยู่บริเวณชายแดนออกไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อวานช่วงบ่าย การปฏิบัติการจึงมีการเริ่มขึ้นเมื่อช่วงเช้าของวันนี้

อ่านข่าว : ทร.ใช้ปฏิบัติการทางทหาร ขับไล่ทหารกัมพูชาจากดินแดนไทย 

ทภ.1 ยืนยันใช้ปฏิบัติการทางทหารตอบโต้กัมพูชา เหตุเป็นภัยคุกคาม 

ทภ.1 สรุปปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา 8 ธ.ค. ยึดคืน 3 พื้นที่ ทหารเจ็บ 3 นาย