วันนี้ (9 ธ.ค.2568) นายรังสิต เฮียงราช ผู้อำนวยการบริษัท ไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด และเลขานุการคณะกรรมการประสานงาน 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย (TSMC) กล่าวว่า ท่ามกลางสถานการณ์ค่าฝุ่น PM2.5 ที่พุ่งสูงขึ้นในกรุงเทพฯและหลายจังหวัดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง โดยสังคมส่วนหนึ่งพุ่งเป้าสงสัยไปที่ การเผาอ้อย ว่าเป็นต้นเหตุสำคัญของปัญหาฝุ่นละออง
นายรังสิต เฮียงราช ผู้อำนวยการบริษัท ไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด และเลขานุการคณะกรรมการประสานงาน 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย (TSMC)
นายรังสิต เฮียงราช ผู้อำนวยการบริษัท ไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด และเลขานุการคณะกรรมการประสานงาน 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย (TSMC)
แต่ในความเป็นจริงคือ ปัญหาฝุ่นพิษมีขึ้นก่อนที่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวอ้อยจะมาถึงทำให้เกิดคำถามว่า เมื่อโรงงานยังไม่เปิดหีบ ชาวไร่ยังไม่ได้ตัดอ้อย แล้วฝุ่น PM2.5 มากจากไหน แล้วทำไมชาวไร่อ้อยจึงเป็นจำเลยสังคม นี่คือข้อสงสัยที่เกษตรกรชาวไร่อ้อยถูกถามซ้ำแล้วซ้ำเล่า และมักถูกมองว่าเป็นผู้ก่อปัญหาฝุ่นเสมอมา
โดยฤดูการหีบอ้อยประจำปีนี้เพิ่งเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 2 ธ.ค. 2568 โดยจากจำนวนโรงงานน้ำตาลทั่วประเทศ 58 แห่ง ปัจจุบันมีเพียง 8 โรงงานเท่านั้น (ข้อมูล วันที่ 7 ธ.ค. 2568) ที่เริ่มเดินเครื่องจักร ซึ่งโรงงานทั้ง 8 โรงงานก็มีการรับอ้อยสดมากถึง 99.7%
และปัจจุบันภาครัฐขอความร่วมมือให้โรงงานฯ รับอ้อยไฟไหม้ไม่เกิน 5% ของปริมาณอ้อยทั้งหมดในช่วงก่อนวันเด็กแห่งชาติตัวเลขดังกล่าวนี้จึงเป็นเครื่องยืนยันและก่อให้เกิดคำถามว่า ปัญหามลพิษที่เกิดขึ้นในขณะนี้ มีต้นตอมาจากการเผาอ้อยจริงหรือไม่ และด้วยเหตุผลใดที่ชาวไร่อ้อยยังคงถูกมองว่าเป็นผู้รับผิดชอบหลักต่อสถานการณ์
อย่างไรก็ตาม ในฐานะองค์กรที่เป็นศูนย์กลางของของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของประเทศไทย มีสมาชิกครอบคลุมโรงงานน้ำตาลทั้ง 58 แห่งทั่วประเทศ พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับภาครัฐ ในการปฏิบัติตามแนวทางที่สำนักงานอ้อยและน้ำตาลกำหนด
โดยเฉพาะการรณรงค์และส่งเสริมให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยหันมา ตัดอ้อยสด อย่างจริงจัง ซึ่งได้รับความร่วมมือจากชาวไร่อ้อยด้วยความพร้อมเพรียง ควบคู่ไปกับบทบาทของโรงงานน้ำตาลที่สนับสนุนการทำเกษตรสมัยใหม่ การใช้รถตัดอ้อย รวมทั้งการรับซื้อใบอ้อยเพื่อไปผลิตเป็นไฟฟ้าชีวมวล ซึ่งเชื่อมั่นว่าการสนับสนุนจากภาครัฐจะเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยสร้างแรงจูงใจในการรับซื้อใบอ้อยของโรงงานและเป็นแก้ปัญหาการเผาอย่างเป็นรูปธรรม นำไปสู่การเติบโตของอุตสาหกรรมฯ อย่างยั่งยืน
เลขานุการคณะกรรมการประสานงาน 3 สมาคม กล่าวอีกว่า แม้จะเป็นเป้าหมายที่ท้าทาย แต่ตัวเลขการรับอ้อยสดมากถึง 99.7% ก็เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างแท้จริงในการจัดการปัญหา ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยยืนยันว่าอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล เป็นอุตสาหกรรมที่โปร่งใส ตรวจสอบได้
และมีมาตรการลดผลกระทบอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากยุทธศาสตร์ความร่วมมือที่รอบด้านและจริงจัง ระหว่างภาครัฐ โรงงานน้ำตาล และเกษตรกรชาวไร่อ้อย ผ่านการทำเกษตรสมัยใหม่และการใช้รถตัด เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างยั่งยืน
อ่านข่าว:
นบข. ลดราคาสินเชื่อจำนำข้าว จาก 8,000 เหลือ 5,800 บาท/ตัน อ้างห่วงชาวนาขายขาด
สศก.ปั้น “ข้าวเขียวหยก” หอมมะลิ 105 ชวนคนไทยอุดหนุนข้าวไทย
สัญญานเตือน "ข้าวไทย" เสี่ยงรอบด้าน เร่งปรับพันธุ์ตอบโจทย์ตลาดโลก











