นนทบุรียังวิกฤต ยังระบายน้ำออกไม่ได้

ภูมิภาค
25 ต.ค. 54
01:23
12
Logo Thai PBS
นนทบุรียังวิกฤต ยังระบายน้ำออกไม่ได้

สถานการณ์น้ำทั่วประเทศขณะนี้ในภาคเหนือและภาคอีสานเริ่มคลี่คลาย ขณะที่ภาคกลางหลายจังหวัดยังวิกฤต ยังมีจังหวัดที่ได้รับผลกระทบอยู่อีก 28 จังหวัด มีผู้เสียชีวิต 366 ราย สูญหาย 2 ราย ส่วนพื้นที่ต่อเนื่อง กทม.กำลังต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

อำเภอบางบัวทองและอำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ที่มีระดับน้ำเพิ่มสูง บางพื้นที่ทรงตัวแล้ว ขณะที่บางพื้นที่มีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีรายงานว่ามีระดับน้ำที่ลดลงจนเข้าสู่ภาวะปกติ เนื่องจากจังหวัดนนทบุรียังไม่สามารถระบายน้ำออกสู่ทะเลตามแผนที่วางไว้ได้ และพบว่า พื้นที่ประสบภัยกำลังประสบปัญหาการถูกเอารัดเอาเปรียบจากเรือโดยสารที่คิดค่าโดยสารแพงเกินจริง

พ.ต.อ.อภิชาต เรือนทิพย์ รักษาราชการผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี และ พ.ต.อ.โสภณ พึ่งไชย ผู้กำกับการ สภ.บางบัวทอง ร่วมกันจัดระเบียบเรือรับจ้างที่วิ่งส่งผู้โดยสารในพื้นที่อำเภอบางบัวทองที่ถูกน้ำท่วมสูงจนรถไม่สามารถวิ่งได้ หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า ผู้ขับเรือโดยสารบางลำฉวยโอกาสขณะน้ำท่วม เบื้องต้นได้เรียกผู้ขับเรือโดยสารทั้งหมดมาประชุมร่วมกันและลงทะเบียนเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว

ส่วนที่จังหวัดปทุมธานีซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพบกได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้ดูแลนั้น ได้ระดมกำลังทหารลงพื้นที่พร้อมยุทโธปกรณ์จำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณรังสิต ที่กำลังเผชิญสถานการณ์น้ำท่วมอย่างหนักในขณะนี้ รวมถึงยังต้องเร่งสร้างคันกั้นน้ำเพื่อป้องกันนิคมอุตสาหกรรมสำคัญที่อาจได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ทั้งที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังและนิคมอุตสาหกรรมบางชัน นอกจากนี้กองทัพยังสนับสนุนการดูแลกระสอบทรายและคันกั้นน้ำอีกหลายจุด ทั้งในจังหวัดปทุมธานีและกรุงเทพมหานคร

ขณะที่นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ที่ได้รับคำสั่งด่วนให้ย้ายไปปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย จะมีผลในวันนี้ (25 ต.ค.) ระบุว่า ยังไม่ทราบเหตุผลจากการสั่งย้ายครั้งนี้ แต่หากเป็นคำสั่งผู้บังคับบัญชาก็พร้อมปฏิบัติตาม แต่ก็ยอมรับว่า อยากทำหน้าที่ผู้ว่าราชการจังหวัดต่อไป เพราะที่ผ่านมาก็ได้ต่อสู้กับสถานการณ์น้ำท่วมอย่างถึงที่สุดแล้ว

ส่วนที่โรงพยาบาลบ้านโป่ง, โรงพยาบาลโพธาราม, โรงพยาบาลราชบุรี จังหวัดราชบุรี และโรงพยาบาลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ขณะนี้เป็นโรงพยาบาลที่ต้องรองรับผู้ป่วยหนักจากโรงพยาบาลราชวิถี กรุงเทพมหานคร ภายหลังมีเตือนให้ประชาชนระวังน้ำเพิ่มสูง และเตรียมความพร้อมในการย้ายไปยังศูนย์พักพิง ทำให้มีการอพยพจากหลายด้าน

นพ.นิรันดร์ จันทร์ตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหัวหิน กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลหัวหินได้เตรียมพื้นที่ชั้น 5 ซึ่งเป็นหอผู้ป่วยสูตินรีเวชกรรมสำหรับรองรับผู้ป่วยจากโรงพยาบาลราชวิถี ซึ่งเป็นผู้ป่วยหนักทั้งหมด โดยพื้นที่ที่เตรียมไว้จะสามารถรองรับผู้ป่วยได้ 31 เตียง ในส่วนของขั้นตอนการรักษานั้นจะขึ้นตรงกับทีมแพทย์ของโรงพยาบาลราชวิถีเป็นหลัก และจะประสานระบบต่างๆ ทั้งห้องปฏิบัติการ ระบบสนับสนุน ยา และเวชภัณฑ์ เข้ากับโรงพยาบาลหัวหินได้ทันที

ส่วนที่พระอุโบสถวัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา นายชาญวิทย์ ผลชีวิน หรือโค้ชหรั่ง รับมอบไข่ไก่ต้ม จำนวน 1,500 ฟอง จากนายไชยศ ร่มโพธิ์ทอง รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ฉะเชิงเทรา เพื่อนำไปมอบให้กับผู้ประสบภัยที่ศูนย์พักพิงภายในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร โดยโค้ชหรั่งกล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ไปอาศัยพักพิงตามสถานที่ต่างๆ ที่ทางราชการจัดไว้ให้ เห็นว่า ที่วัดโสธรวรารามวรวิหารมีพุทธศาสนิกชนนำไข่ไก่ต้มไปแก้บนหลวงพ่อกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เมื่อนำกลับไป ก็จะเหลือมากเกินที่จะไว้บริโภคเอง จึงประสานงานขอรับการบริจาคจากประชาชนผ่านรองนายก อบจ.ฉะเชิงเทรา เพื่อนำไปมอบให้กับผู้ประสบภัยที่พักพิงในศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ

ส่วนสถานการณ์น้ำในเขตเทศบาลนครนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดยังไม่คลี่คลาย แต่ผู้ค้าในเขตเทศบาลฯ ต่างก็ทยอยเปิดร้านเพื่อลดความสูญเสียจากอุทกภัยที่เกิดขึ้นเป็นเวลานาน สำหรับพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ แม้ในเขตเทศบาลฯ ระดับน้ำจะลดลงต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีพื้นที่น้ำท่วมขังถึง 10 อำเภอ 79 ตำบล มีประชาชนเดือดร้อนกว่า 110,000 ครอบครัว โดยยังมีพื้นที่ที่ยังอยู่ในสถานการณ์วิกฤตที่ต้องได้รับการดูแล 4 อำเภอ ได้แก่อำเภอชุมแสง อำเภอเมือง อำเภอโกรกพระ และอำเภอพยุหะคีรี เพราะคาดว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 1 เดือนระดับน้ำจึงจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ส่วนที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ชาวตำบลดงลิง อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ ช่วยกันเจาะถนนซึ่งเป็นพนังกั้นน้ำ บริเวณบ้านโนนเมือง เพื่อเร่งระบายน้ำชีให้ไหลลงสู่แม่น้ำปาวได้เร็วยิ่งขึ้น เพื่อลดผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมที่กำลังขยายวงกว้าง ซึ่งจนถึงขณะนี้ชาวบ้านจากอำเภอกมลาไสยและอำเภอฆ้องชัยได้รับผลกระทบแล้วกว่า 31 หมู่บ้าน 5,000 กว่าครัวเรือน ส่วนนาข้าวหายเสียแล้ว 120,000 ไร่

ส่วนที่จังหวัดนครราชสีมา เจ้าหน้าที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์ยังคงเร่งระบายน้ำลงสู่พื้นที่ด้านล่าง เพื่อเตรียมรับมวลน้ำก้อนใหญ่ที่จะไหลลงสู่ลำน้ำมูลที่อำเภอพิมายในช่วงปลายสัปดาห์นี้ พร้อมประกาศแจ้งเตือนประชาชนในที่อยู่ติดพื้นที่ลุ่มต่ำให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งตลอด 24 ชั่วโมง


ข่าวที่เกี่ยวข้อง