ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

TikTok ใกล้รอดแบน แยกตัวจาก ByteDance ตั้งบริษัทใหม่ในสหรัฐฯ

ต่างประเทศ
07:46
813
TikTok ใกล้รอดแบน แยกตัวจาก ByteDance ตั้งบริษัทใหม่ในสหรัฐฯ
TikTok เซ็นสัญญาแยกธุรกิจในสหรัฐฯ ตั้งบริษัทร่วมทุนกับนักลงทุนอเมริกันเป็นหลัก ภายใต้แรงหนุนจากทรัมป์ เพื่อลดบทบาท ByteDance และเลี่ยงกฎหมายแบนแอป รอปิดดีลต้นปี 2569 ท่ามกลางการรออนุมัติจากจีน

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2568 ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ CNN รายงาน TikTok ขยับเข้าใกล้การรักษาฐานธุรกิจในสหรัฐฯ หลังเซ็นสัญญาข้อตกลงเพื่อแยกหน่วยงานในสหรัฐฯ ออกจากบริษัทแม่อย่าง ByteDance โดยตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่กับกลุ่มนักลงทุนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวอเมริกัน ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้การสนับสนุนของ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ และถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญในการหลีกเลี่ยงกฎหมายที่กำหนดให้ TikTok ต้องขายหรือแยกตัวจากบริษัทจีน มิฉะนั้นจะถูกแบนในสหรัฐฯ

โจว โซ่วจือ CEO TikTok แจ้งพนักงานผ่านบันทึกภายในเมื่อวานนี้ (18 ธ.ค.) ว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยรับประกันความมั่นคงระยะยาวของแพลตฟอร์มในสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ใช้งานมากกว่า 170 ล้านคน แม้ดีลจะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่ทุกฝ่ายได้ตกลงในเงื่อนไขหลักแล้ว และคาดว่าจะปิดดีลได้ภายในวันที่ 22 ม.ค.2569

ตามโครงสร้างใหม่ บริษัทร่วมทุน TikTok สหรัฐฯ จะถือครองและบริหารแอปพลิเคชันยอดนิยมนี้เวอร์ชันสหรัฐฯ โดยกลุ่มนักลงทุนประกอบด้วยโอราเคิล บริษัทเอกชนซิลเวอร์เลค และบริษัทลงทุนเอ็มจีเอ็กซ์ จะถือหุ้นรวมกันร้อยละ 50 ขณะที่บริษัทในเครือของนักลงทุนเดิมใน ByteDance ถือหุ้นมากกว่าร้อยละ 30 ส่วน BtyeDance จะเหลือสัดส่วนเพียงร้อยละ 19.9 ต่ำกว่าเกณฑ์ควบคุมตามกฎหมายสหรัฐฯ อย่างชัดเจน

รัฐบาลทรัมป์เคยเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายแบน TikTok หลายครั้ง เพื่อเปิดทางให้การเจรจาและการโอนทรัพย์สินเกิดขึ้นอย่างราบรื่น โดยกฎหมายดังกล่าวกำหนดให้ ByteDance ต้องแยกสินทรัพย์ในสหรัฐฯ ประมาณร้อยละ 80 ให้แก่นักลงทุนที่ไม่ใช่ชาวจีน ดีลใหม่นี้จึงถูกมองว่าเป็นการตอบโจทย์ข้อกังวลด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ โดยตรง

ในแผนการดำเนินงาน บริษัทร่วมทุนสหรัฐฯ จะพัฒนาและฝึกอัลกอริทึมใหม่โดยใช้ข้อมูลผู้ใช้ในสหรัฐฯ เท่านั้น ขณะที่โอราเคิลจะรับหน้าที่ดูแลการจัดเก็บและความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้งานชาวอเมริกัน รวมถึงการกำกับดูแลระบบตรวจสอบเนื้อหาภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม หน่วยงาน TikTok ระดับโลกซึ่งยังอยู่ภายใต้ ByteDance จะยังดูแลด้านอีคอมเมิร์ซ การโฆษณา และการตลาดของแพลตฟอร์มสหรัฐฯ ต่อไป

แม้ทรัมป์จะระบุว่า ปธน.สี จิ้นผิง เห็นชอบในหลักการ แต่ข้อตกลงนี้ยังต้องรอการอนุมัติอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลจีน รวมถึงหน่วยงานกำกับดูแลของทั้ง 2 ประเทศ นักวิเคราะห์มองว่าข้อตกลงนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วยให้ TikTok หลีกเลี่ยงการถูกแบน และรักษาฐานผู้ใช้กว่า 170 ล้านคนในสหรัฐฯ ไว้ได้ สร้างความมั่นใจให้กับชุมชนผู้ใช้และนักลงทุนทั่วโลก

อ่านข่าวอื่น :

มอเตอร์เวย์ M6 "บางปะอิน-โคราช" เปิดวิ่งฟรีรับปีใหม่ 26 ธ.ค.68-5 ม.ค.69

ไทย พบ อินโดนีเซีย รอบชิงชนะเลิศวอลเลย์บอลชายซีเกมส์ 2025

เกษตรกรยุโรปประท้วง EU คัดค้าน "เมร์โกซูร์" หวั่นสินค้าละตินอเมริกาทะลัก